พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) ว่า วิกฤตโควิดครั้งนี้ทำให้เห็นความแข็งแกร่งของประเทศไทยที่เป็นสุดยอดไม่แพ้ประเทศใดในโลก 2 เรื่อง คือความเต็มใจที่จะร่วมมือกันอย่างเป็นหนึ่งเดียวของคนไทยทุกคน และการที่ประเทศไทยมีคนเก่งที่มีความรู้ความสามารถอยู่เป็นจำนวนมาก และในทุกระดับของสังคม ดังนั้นหากคนไทยร่วมแรงร่วมใจกันทั้งประเทศแบบนี้ไปตลอด เราจะสามารถช่วยกันขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าได้เร็วขึ้นและไปไกลมากขึ้น
ซึ่งการจะทำให้สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นจริงได้นั้น ในยุคหลังจากโควิด นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลจะปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานเป็นรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า New Normal รวมทั้งหมด 3 เรื่อง ดังนี้
1.ผนึกทุกภาคส่วนร่วมวางอนาคตประเทศไทย โดยรัฐบาลจะดึงทุกภาคส่วน และทุกระดับในสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตประเทศ ซึ่งจะปรับวิธีการวางแผน และกำหนดนโยบายโดยเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น
“ในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า ผมจะขอให้แต่ละภาคส่วนเตรียมการเข้ามานำเสนอวิสัยทัศน์ และความคิดในการเปลี่ยนโฉมและขับเคลื่อนภาคส่วนของท่าน ไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้นซึ่งจะช่วยนำพาประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าให้ได้ไกลขึ้น และรวดเร็วขึ้นด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
2.การประเมินผลงานภาครัฐ โดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตัวจริง เพื่อประเมินผลลัพธ์การทำงานว่าได้สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนตามที่ถูกคาดหวังไว้หรือไม่ โดยจะเปิดโอกาสให้ประชาชนมีบทบาทในการประเมินผล และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ให้ผู้บริหารระดับสูงในรัฐบาลได้รับทราบโดยตรงได้ด้วย
3.การทำงานเชิงรุก โดยกำหนดนโยบายสำคัญเร่งด่วนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้รัฐบาลพร้อมรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ หากเป็นข้อเสนอที่ดีก็พร้อมที่จะทำตามข้อเสนอดังกล่าวด้วย
“เราต้องหยุดเสียเวลาไปกับการคุยเรื่องไม่สร้างสรรค์ เราต้องหยุดนะครับ ไม่ปล่อยให้เกมการเมืองที่ไม่สุจริต บิดเบือนข้อเท็จจริง มาดึงรั้งการก้าวเดินไปข้างหน้าของประเทศโดยไม่จำเป็น เป้าหมายข้างหน้าที่มีความเจริญรุ่งเรืองของประเทศรอเราอยู่เส้นทางนี้ไม่ใกล้ แต่ก็ไม่ไกลจนเกินไป ถ้าเราทุกคนร่วมมือกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ตนได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ และหวังว่าวิกฤตครั้งนี้จะช่วยให้เปลี่ยนโฉมหน้าของประเทศ ให้ประเทศไทยก้าวเดินออกจากหายนะโควิด ไปเป็นประเทศที่แข็งแกร่งกว่าเดิมได้รับการยอมรับจากนานาประเทศมากขึ้น
