เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 พ.ย. 2567 ที่ ลานกิจกรรมสถานีรถไฟขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับ สมาคมกีฬามวยไทยจังหวัดขอนแก่น จัดกิจกรรมวันเปรียบมวย “ศึกมวยไทยงานไหม มุ่งสูโอลิมปิก” จำนวน 300 คู่ เพื่อนำไปแข่งขันภายใน งานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว งานกาชาดจังหวัดขอนแก่นและงานขอนแก่นซอฟต์พาวเวอร์ ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 29 พ.ย. – 10 ธ.ค. 2567 โดยมีนายสมรักษ์ คำสิงห์ เจ้าของฉายาไม่ได้โม้ พร้อมด้วย อาจารย์ประมวล พิมพ์เสน ประธานศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชจังหวัดขอนแก่น คณะกรรมการจัดการแข่งขันมวยไทย และนักมวยเดินทางมาจากหลายพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรม
นายสมรักษ์ คำสิงห์ กล่าวว่า วันนี้ได้มีการเปรียบมวยรากหญ้า เป็นมวยใหม่เพื่อที่จะเอาไปชกในงานไหมนานาชาติฯระหว่างวันที่ 29 พ.ย. – 10 ธ.ค. นี้ จะเป็นแรงบันดาลใจของเด็ก ซึ่งตนเองได้เริ่มต้นการชกมวยและไต่เต้ามาจากงานไหมฯ จังหวัดขอนแก่น และกิจกรรมการชกมวยก็ไม่ได้จัดมาเป็นเวลานานมากแล้ว จึงอยากให้มีการจัดขึ้นมาอีกครั้งเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับน้องๆเด็กๆที่อยากเป็นนักมวย อีกทั้งเป็นการเชิญชวนให้คนได้เข้ามาเที่ยวในการงานเทศกาลไหมฯด้วย ถือเป็น soft power อย่างหนึ่ง ทุกวันนี้ทางรัฐบาลได้ผลักดันกีฬา “มวยไทย” ให้เป็น Soft Power และเมืองขอนแก่นก็ถือว่าเป็นตำนานมวยไทยมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
“ตอนแรกไม่ได้อยากจัด 300 คู่แต่ก็ประกาศให้มันแบบไม่ได้โม้เฉยๆ ไม่นึกเลยว่าจะมีนักมวยเดินทางมาเปรียบมวยถึง 300 คู่จริงแต่ก็ดีใจนะดีใจเพราะมวยเป็กีฬาชนิดหนึ่งที่ทำให้คนหันมาเล่นและห่างไกลยาเสพติดได้ มวยทุกวันนี้ไม่ใช่กีฬาธรรมดาแต่มันเป็นอาชีพหนึ่งที่จะสามารถเลี้ยงดูพ่อแม่และครอบครัวได้ ในอนาคตไม่แน่เด็กที่มาในวันนี้อาจได้มุ่งไปสู่โอลิมปิกสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติและ มวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้ของวัฒนธรรมไทยที่ชาวต่างชาติให้การยอมรับและหลงไหลจะศึกษาเรียนรู้อยู่เสมอ เพราะมวยไทยคือความงามของศิลปะการต่อสู้ที่แฝงไว้ซึ่งศาสตร์และศิลป์ ความโดดเด่นและความเป็นเอกลักษณ์ไทยจึงเป็นสิ่งที่คนไทยต้องช่วยกันอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรรมอันดีงามของชาติไทยให้คงอยู่สืบไป”
“กีฬามวยไทยได้รับการบรรจุเข้าไว้ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ โดยเริ่มมีการแข่งขันครั้งแรกที่จังหวัดขอนแก่น ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 25 เป็นการแข่งขันแบบมวยไทยสมัครเล่น แต่ในปัจจุบันได้มีการจัดการแข่งขันในระดับชาติรวมถึงการแข่งขันชิงแชมปิโลกทั้งในระดับอาชีพและสมัครเล่น นอกจากนี้ “มวยไทย” ยังได้สร้างตำนานและเป็นบันไดก้าวแรกของ สมรักษ์ คำสิงห์ เจ้าของฉายาไม่ได้ไม้ จากนักมวยไทยชกตามงานวัดสู่นักกีฬามวยสากลเหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของประเทศไทย และได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ”