ณ ห้องบอลรูม สโมสรราชพฤกษ์ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยเครื่องดื่มตราช้าง ได้จัดพิธีจับสลากประกบคู่ ช้าง เอฟเอ คัพ 2020 รอบ 64 ทีมสุดท้ายขึ้น
สำหรับงานในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธาน พร้อมด้วย คุณพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมฯ, คุณกรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด, คุณสุรพล อุทินทุ ผู้บริหารสำนักประสานงานภายนอก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยเครื่องดื่มตราช้าง, คุณโรจนสิทธิ์ มีนิจสิน รองผู้อำนวยการโครงการกีฬาไทยเบฟ ไทยทาเล้นท์ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), คุณจิรัชยากร กองทอง ผู้จัดการโครงการกีฬาฟุตบอลไทยเบฟ ไทยทาเล้นท์ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), คุณศิวดล ทองสอาด ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรและสื่อสารการตลาด บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด, คุณพลเชษฐ์ รุ่งกิจวรเสถียร เจ้าหน้าที่บริหารสิทธิประโยชน์ บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด คุณธารา พฤกษ์ชะอุ่ม รองประธานกรรมการอำนวยการ บริษัทในเครือแกรนด์สปอร์ต และสื่อมวลชน เข้าร่วมงานครั้งนี้
ซึ่ง พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวว่า “สวัสดีแขกผู้มีเกียรติ ตัวแทนสโมสร และสื่อมวลชนทุกท่าน ฟุตบอลถ้วยรายการนี้ เป็นรายการที่เก่าแก่ มีการแข่งขันมาแล้วครึ่งศตวรรษ ถือเป็นฟุตบอลที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทย และปีนี้ก็มีการแข่งขันฟุตบอลถ้วยรายการเดียว ที่สำคัญคือ ฟุตบอลรายการนี้มีที่ให้แค่ผู้ชนะเท่านั้น และยังให้สิทธิ์ทีมไปเล่นเอฟเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก พร้อมทั้งเงินรางวัล 5 ล้านบาท ก็ถือว่าเป็นฟุตบอลรายการที่น่าตื่นเต้นครับ”
“เครื่องดื่มตราช้าง นั้นให้การสนับสนุนวงการฟุตบอลไทยมาโดยตลอด ไม่เพียงแค่สมาคมฯ และทีมชาติเท่านั้น แต่ช้างยังให้ความสำคัญกับสโมสรอีกหลายๆ สโมสร ถือเป็นผู้มีอุปการะคุณของฟุตบอลไทย และอยู่คู่ฟุตบอลไทยเป็นระยะเวลายาวนาน”
“ผมขอฝากไปถึงตัวแทนสโมสร และบรรดาแฟนฟุตบอลไทยว่า นี่อาจเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับคนไทย ซึ่งวงการฟุตบอลก็หนีไม่พ้น โควิด-19 ทำให้ธุรกิจทุกแห่งกระทบกระเทือนหมด รวมไปถึงผู้มีอุปการะคุณของเราที่ได้รับผลกระทบด้วย ก็อยากขอให้ทุกท่านที่เกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอล ให้อดทนนะครับ เพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราจะอดทนไปด้วยกัน ปีหน้าเราได้สปอนเซอร์ใหม่มารับสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีก เราได้รับเงินมากขึ้น ซึ่งเงินเหล่านี้เราจะนำไปสนับสนุนสโมสรได้แค่ไหนนั้น ก็ขึ้นกับความเหมาะสม เพราะทุกท่านเป็นเจ้าของเงิน ส่วนผมเป็นแค่ผู้บริหาร ผมแค่เพียงดูว่าจะบริหารอย่างไรให้เกิดความเหมาะสม ก็อยากให้ทุกสโมสรที่เสียสละ และตั้งใจทำทีมประสบผลสำเร็จ สมหวังกับสิ่งที่คาดหวังไว้ ขอให้ทุกท่านโชคดี และผมขอให้ฟุตบอลรายการนี้ได้รับความนิยมตลอดไปครับ ขอบคุณครับ”
ด้าน คุณสุรพล อุทินทุ กล่าวว่า “อย่างที่ทราบกันนะครับว่า เครื่องดื่มตราช้างให้ความสำคัญกับการแข่งขันกีฬา โดยเฉพาะฟุตบอล ซึ่งเป็นกีฬาหลักที่เราให้การสนับสนุน สำหรับฟุตบอลช้าง เอฟเอ คัพ ก็อย่างที่ท่านนายกสมาคมฯ บอกนะครับ ว่ามันเป็นการแข่งขันที่สนุก ไม่มีที่ให้กับผู้แพ้ ฉะนั้นแล้วทุกคนต้องติดตามชมให้ดี วันนี้เองถือเป็นวันที่สำคัญ เพราะในการจับสลากประกบคู่ ถ้าเราโชคดี ก็อาจจะได้อยู่ในการแข่งขันได้นาน”
“วันนี้ผมดีใจที่ได้เห็นตัวแทนสโมสรทั้ง 64 ทีมที่มาในวันนี้ ในการแข่งขันบอลถ้วยนั้น ทุกทีมจะแข็งแกร่งหมด ไม่มีทีมใดที่เก่งเหนือใคร มันขึ้นอยู่กับว่าใครเจอใคร และอาจมีการแพ้ทางหรือเปล่า ก็ต้องลุ้นกันครับ”
“ก็เหมือนกับทุกปี การแข่งขันรายการนี้ บรรดาสโมสรก็อยากจะพัฒนาเยาวชนด้วย ฉะนั้นแล้ว ตั้งแต่รอบ 64 ทีมขึ้นไป ก็จะมีคลินิคฟุตบอลให้เด็กๆ 5 รอบ และด้วยการที่ปีนี้ครบ 50 ปี เราจะมีการคัดเด็กที่ดีที่สุดจากแต่ละสนามที่มีคลินิค สนามละ 10 คน มาเข้าแคมป์เก็บตัว รวมกันเป็น 50 คน ฉะนั้นเด็กที่เข้าแคมป์มา อาจกลายเป็นเพชรเม็ดงามของวงการฟุตบอลต่อไปได้ครับ”
“การแข่งขันรายการนี้สนุกแน่นอนครับ ก็อยากให้แฟนบอลเชียร์ และติดตามกันครับ 7-8 พฤศจิกายน นี้ เราก็จะเห็น 32 ทีมที่เข้ารอบต่อไปครับ”
โดยการแข่งขัน ช้าง เอฟเอ คัพ 2020 รอบแรก ในปีนี้ จะมีทั้งสโมสรในระดับอาชีพ (ไทยลีก 1-3) และสโมสรในระดับสมัครเล่นเข้าร่วม รวมทั้งสิ้น 64 ทีม ได้แก่
โตโยต้า ไทยลีก (16 ทีม) : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, โปลิศ เทโร เอฟซี, สุโขทัย เอฟซี, ตราด เอฟซี, การท่าเรือ เอฟซี, สุพรรณบุรี เอฟซี, พีที ประจวบ เอฟซี, ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด, นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, สมุทรปราการ ซิตี้, เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด, สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, ชลบุรี เอฟซี, ราชบุรี มิตรผล เอฟซี, ระยอง เอฟซี
M-150 แชมเปี้ยนชิพ (9 ทีม) : หนองบัว พิชญ เอฟซี, ขอนแก่น เอฟซี, เชียงใหม่ เอฟซี, เชียงใหม่ ยูไนเต็ด, ชัยนาท ฮอร์นบิล, เอ็มโอเอฟ ศุลกากร ยูไนเต็ด, ลำปาง เอฟซี, อุดรธานี เอฟซี, สโมสรฟุตบอลราชนาวี
ออมสิน ลีก รีเจินนัล แชมเปี้ยนชิพ (24 ทีม) : วัดโบสถ์ ซิตี้, ลำพูน วอริเออร์, เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด, มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เอฟซี, บ้านบึง เอฟซี, บางปะอิน อยุธยา เอฟซี, กระบี่ เอฟซี, นนทบุรี ยูไนเต็ด ส.บุญมีฤทธิ์, สโมสรฟุตบอลราชประชา, บางกอก เอฟซี, ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี, เมืองเลย ยูไนเต็ด, เชียงราย ซิตี้, กำแพงเพชร เอฟซี, อุดร ยูไนเต็ด, สมุทรสงคราม เอฟซี, นาวิโยธิน ยูเรก้า เอฟซี, บ้านค่าย ยูไนเต็ด, สีแคว ซิตี้, สงขลา เอฟซี, แม่โจ้ ยูไนเต็ด, ปลวกแดง ยูไนเต็ด, อุตรดิตถ์ เอฟซี, ขอนแก่นมอดินแดง เอฟซี
สโมสรในระดับสมัครเล่น (15 ทีม) : สวรรคโลก ยูไนเต็ด, โดม เอฟซี, เทคโนสว่าง เอฟซี, พัฒนานิคม ซิตี้, สถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง, กระนวน เอฟซี, โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครราชสีมา, สุวรรณภูมิ ยูไนเต็ด, สุรินทร์ดรา วายเอ็มเอ เอฟซี, นครนายก เอฟซี, กาฬสินธุ์ ซอโรพอด เอฟซี, บึงสามพัน เอฟซี, ปราจีนบุรี ซิตี้, น้ำพอง ซิตี้, ปากช่อง เอสซีเค
โดยผลการจับสลากในรอบแรก มีดังนี้
คู่แข่งขัน วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2563
สงขลา เอฟซี พบ สุวรรณภูมิ ยูไนเต็ด
บางกอก เอฟซี พบ การท่าเรือ เอฟซี
ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบ ม. เกษมบัณฑิต เอฟซี
สวรรคโลก ยูไนเต็ด พบ บางปะอิน อยุธยา เอฟซี
เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด พบ น้ำพอง ซิตี้
บึงสามพัน เอฟซี พบ สโมสรฟุตบอลราชนาวี
ขอนแก่นมอดินแดง เอฟซี พบ พีที ประจวบ เอฟซี
หนองบัว พิชญ เอฟซี พบ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด
สุโขทัย เอฟซี พบ สุรินทร์ดรา วายเอ็มเอ เอฟซี
ปากช่อง เอสซีเค พบ สถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง
เชียงใหม่ เอฟซี พบ อุตรดิตถ์ เอฟซี
เทคโนสว่าง เอฟซี พบ โดม เอฟซี
รร. กีฬาเทศบาลนครราชสีมา พบ เอ็มโอเอฟ ศุลกากร ยูไนเต็ด
นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบ สมุทรปราการ ซิตี้
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ สมุทรสงคราม เอฟซี
กระนวน เอฟซี พบ เมืองเลย ยูไนเต็ด
สโมสรฟุตบอลราชประชา พบ โปลิศ เทโร เอฟซี
สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด พบ นนทบุรี ยูไนเต็ด ส.บุญมีฤทธิ์
คู่แข่งขันวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน 2563
นาวิกโยธิน ยูเรก้า เอฟซี พบ สุพรรณบุรี เอฟซี
บ้านบึง เอฟซี พบ อุดร ยูไนเต็ด
ปราจีนบุรี ซิตี้ พบ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี
แม่โจ้ ยูไนเต็ด พบ ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี
กำแพงเพชร เอฟซี พบ เชียงราย ซิตี้
วัดโบสถ์ ซิตี้ พบ บ้านค่าย ยูไนเต็ด
ลำปาง เอฟซี พบ ขอนแก่น เอฟซี
เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ พัฒนานิคม ซิตี้
สี่แคว ซิตี้ พบ ลำพูน วอริเออร์
ชัยนาท ฮอร์นบิล พบ ตราด เอฟซี
อุดรธานี เอฟซี พบ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
กาฬสินธุ์ ซอโรพอด เอฟซี พบ ชลบุรี เอฟซี
ระยอง เอฟซี พบ กระบี่ เอฟซี
ปลวกแดง ยูไนเต็ด พบ นครนายก เอฟซี
ขณะที่กติกาการแข่งขันในรอบนี้ ในเวลาปกติ แข่งขัน 90 นาที ครึ่งละ 45 นาที พักครึ่ง 15 นาที หากเสมอกันจะมีการต่อเวลาพิเศษ 30 นาที และถ้าเสมอกันอีกจะใช้การดวลจุดโทษตัดสิน โดยใช้การยิงแบบ ABAB สำหรับโควต้านักกีฬาต่างชาติเป็น 3+1+1 (ต่างชาติ 3 + เอเชีย 1 + อาเซียน 1) โดยการเปลี่ยนตัวนักกีฬา สามารถเปลี่ยนตัวนักกีฬาสำรองได้ 3 คน ต่อเวลาพิเศษเปลี่ยนตัวเพิ่มได้อีก 1 คน
ทั้งนี้ การแข่งขัน ช้าง เอฟเอ คัพ 2020 รอบ 64 ทีมสุดท้าย จะแข่งขันในวันที่ 7-8 พฤศจิกายน 2563 โดยทีมที่ชนะเลิศรายการนี้ จะได้รับเงินรางวัล 5 ล้านบาท และยังได้รับสิทธิ์ร่วมแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2022