นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ว่า จากการประชุมหารือร่วมกับภาคเอกชนท่องเที่ยว ในการหาแนวทางการปลดล็อกเงื่อนไขโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อจูงใจประชาชนเข้าร่วมมากขึ้น จากปัจจุบันมีผู้ใช้สิทธิห้องพักเพียง 1.4 ล้านคืน แม้สิทธิการใช้ห้องพักจะอยู่ที่ 10,000 ห้องพักต่อวัน แต่ก็ยังช้ากว่าที่ตั้งเป้าไว้ รวมถึงแพคเกจกำลังใจ ที่จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการยังมีค่อนข้างน้อย
ทั้งนี้ ได้มีการพิจารณาถึงสิทธิการใช้ตั๋วเครื่องบินที่รัฐจะสนับสนุนส่วนต่างให้ 40% ส่วนอีก 60% ผู้ได้สิทธิจะต้องจ่ายเอง เบื้องต้นประเมินว่าหากสามารถทำให้ผู้ได้สิทธิจ่ายเพียง 60% ไม่ต้องจ่ายทั้งหมด 100% แล้วรอให้รัฐสมทบส่วนต่างให้ย้อนหลัง อาจสามารถดึงดูดใจให้ประชาชนต้องการใช้บริการเพื่อท่องเที่ยวมากขึ้น โดยคาดว่าภายในเดือนตุลาคมนี้ จะมีความชัดเจนในการปรับเงื่อนไข
นอกจากนี้ จากแพ็กเกจเราเที่ยวด้วยกัน ยังมีการหารือถึงการปรับเปลี่ยน หรือเพิ่มสิทธิประโยชน์อื่นเข้ามามากขึ้นได้ มีข้อเสนอให้เพิ่มการเลือกเที่ยวในรูปแบบการจัดแพคเกจทัวร์ท่องเที่ยว เพิ่มวอยเชอร์ในการใช้จ่าย เพื่อกระตุ้นกลุ่มผู้สูงอายุที่อาจจะยังไม่คุ้นชินกับการใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นหรือช่องทางออนไลน์ รวมถึงการจับคู่ท่องเที่ยวระหว่างจังหวัด อาทิ ไปเที่ยวจังหวัดที่ 1 พ่วงอีก 1 จังหวัด เท่ากับสามารถท่องเที่ยวได้ 2 จังหวัดในการออกเดินทางเพียงครั้งเดียว โดยในระหว่างนี้จะหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการประเมินวิธีการให้บริการว่าจะสามารถทำอะไรเพิ่มได้มากขึ้นเท่าใด
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะประกาศวันหยุดเพิ่มเติมตั้งแต่เดือนตุลาคม และเดือนพฤศจิกายน รวมถึงยังมีวันหยุดในช่วงเทศกาลสิ้นปี แต่ปัจจัยแวดล้อมต่างๆ อาทิ ภาวะเศรษฐกิจ และกำลังซื้อ ที่ผลต่อการตัดสินใจเดินทาง หากเงินในกระเป๋าของคนส่วนใหญ่ไม่เอื้ออำนวยในการเดินทางท่องเที่ยว การกระตุ้นท่องเที่ยวก็จะทำได้ยากขึ้น ดังนั้นการปรับเงื่อนไขเราเที่ยวด้วยกันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งในการจูงในให้คนไทยท่องเที่ยวมากขึ้น
