นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาด้านกฎหมาย การควบคุม ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวกับธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิง โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ เช่น กรมการขนส่งทางบก กรมโยธาธิการและผังเมือง สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นคณะกรรมการ ซึ่งการประชุมในวันนี้ ได้มีการหารือถึงการตรวจสอบและการวิเคราะห์สาเหตุ จาก 3 เหตุการณ์ ทั้งอุบัติเหตุท่อก๊าซธรรมชาติที่จังหวัดสมุทรปราการ อุบัติเหตุรถขนส่งบรรทุกน้ำมันที่จังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดลำพูน รวมถึงพิจารณาแนวทางและมาตรการป้องกันในอนาคต
ซึ่งในส่วนของอุบัติเหตุท่อส่งก๊าซธรรมชาติที่ ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการตรวจสอบพร้อมเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการสืบสวนเฉพาะด้านจากหน่วยงานต่างๆ เพื่อหาสาเหตุและกำหนดมาตรการป้องกันที่เข้มงวด พร้อมทั้งได้สั่งการให้สำรวจพื้นที่แนวท่อก๊าซธรรมชาติเพื่อศึกษาสภาพแวดล้อมที่อาจเปลี่ยนแปลงไป ประสานกรมโยธาธิการและผังเมืองเพื่อกำหนดพื้นที่แนวท่อก๊าซธรรมชาติ/ท่อน้ำมัน เร่งจัดทำระบบแจ้งเตือนให้แก่ชุมชนโดยเชื่อมต่อกับระบบ SCADA เพิ่มการติดตั้งระบบเฝ้าระวังและติดตามเพื่อให้สามารถตรวจสอบภาพสถานการณ์ตามแนวท่อได้ตลอดเวลา (โดยจะเริ่มในพื้นที่ที่มีชุมชนหนาแน่นสูงในเขตกรุงเทพในชั้นก่อนในระยะแรก) พร้อมให้ลงพื้นที่ให้ความรู้ความเข้าใจและซักซ้อมเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินให้กับชุมชนที่อยู่ใกล้บริเวณแนวท่อส่งก๊าซธรรมชาติ/ท่อขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง
ส่วนอุบัติเหตุรถขนส่งน้ำมันทั้ง 2 เหตุการณ์นั้น ในส่วนของอุปกรณ์ต่อพ่วงในระบบขนส่งน้ำมันนั้น กรมธุรกิจพลังงานได้มีมาตรการควบคุมซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน มีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กรมธุรกิจพลังงาน จะดำเนินการประสานกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้มีการกำหนดมาตรการให้มีการติดตั้งกล้อง CCTV บริเวณห้องคนขับเพื่อติดตามสภาพพนักงานขับรถขนส่งน้ำมัน ป้องกันการหลับใน พร้อมทั้งจะมีการจัดอบรมให้ความรู้กับผู้ปฏิบัติงานด้านการขนส่งน้ำมันอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นมากขึ้น
“ขอเน้นย้ำว่า กระทรวงพลังงาน ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ให้กรมธุรกิจพลังงานหาสาเหตุโดยเร็ว พร้อมจัดทำแนวทางเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นในอนาคต และได้ขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อกำหนดพื้นที่แนวท่อก๊าซธรรมชาติ/ท่อน้ำมันไม่ให้มีการก่อสร้างที่อาจจะส่งผลกระทบกับแนวท่อ กรมการขนส่งทางบก ในการกำหนดให้รถขนส่งน้ำมันจะต้องติดตั้งกล้อง CCTV สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการกำหนดมาตรการเพิ่มเติมสำหรับโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงแนวท่อขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง พร้อมสั่งการให้มีการแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องให้มีความเข้มข้นและมีประสิทธิภาพโดยเร็ว” นายกุลิศ กล่าว