ตร.ภ.4 เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดผู้ชุมนุม หลังปะทะตำรวจ –ต่อย รอง ผบช.ภ.4-ปาสี- ปาปลาร้า พยายามฝ่าวงล้อมเข้าพบ “บิ๊กป้อม” ขณะลงพื้นที่ขอนแก่น ขณะที่การ์ดที่ถูกจับกุมถูกดำเนินคดี 2 ข้อหาปรับและปล่อยตัวแล้ว “ไพศาล” ย้ำชัดหากผู้ชุมนุมจะแจ้งความจับตำรวจขอให้ระบุชื่อตนเองในการเอาผิดเพราะเป็นคนสั่งการทั้งหมด
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 15 ต.ค.2564 พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.4 ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรภาค 4 ( รอง ผบช.ฯ เรียน วปอ.ที่ กรุงเทพ.ฯ ) เปิดเผยผ่านระบบออนไลน์ ZOOM ว่า เหตุการณ์การปะทะระหว่าง กลุ่มผู้ชุมนุมในนามคณะราษฎรขอนแก่น กับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ในช่วงของการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รวมทั้งคณะรัฐมนตรี และ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในการตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วม รวมทั้งการมอบถุงยังชีพ,เครื่องอุปโภค-บริโภค,น้ำดื่ม ให้กับผู้ประสบภัยในเขต อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งโดยสรุปคือเกิดการณ์ปะทะกัน 3 จุด คือที่หน้าศาลากลาง จ.ขอนแก่น,บริเวณสี่แยกศาลากลางหน้าสำนักงานอัยการ ภ.4 และ ที่บริเวณหน้าวัดเทพปูรณาราม ต.ท่าพระ อ.เมืองขอนแก่น ซึ่งทุกจุดขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนและฝ่ายการข่าวได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อสรุปรายงานส่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติและดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่ก่อเหตุดังกล่าวในทุกจุด ซึ่งเหตุการณ์ในการปะทะจุดแรกที่หน้าศาลากลางจังหวัด นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นายคือ ส.ต.ท.ธนวุฒิ โคตรลุน และ ส.ต.ท.ธนาธร นามบัณฑิต ผบ.หมู่ (ป.) สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น ขณะที่ตนเองนั้น หลบจังหวะที่การ์ดกลุ่มผู้ชุมนุมต่อยได้แต่ก็ถูกเพียงช่วงปลายนิ้วที่บริเวณใบหน้า ขณะที่ พ.ต.ท.เมธี ศรีวรรณา สวป.สภ.เมืองขอนแก่น ซึ่งถูกการ์ดคนเดียวกันพยายามต่อยเข้าที่ใบหน้า แต่หลบทันแต่ก็ถูกช่วงปลายต่อยเข้าที่ไหล่ขวา ซึ่งหลังเกิดเหตุปะทะ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวการ์ดกลุ่มผู้ชุมนุมคือนายอิศเรษฐ์ เจริญคง มาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองขอนแก่น
“เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหา นายอิศเรษฐ์ ในเบื้องต้น 2 ข้อกล่าวหา คือ ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำการปรับ 200 บาท และ ขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงานในขณะปฎิบัติหน้าที่ ปรับ 500 บาทและอนุญาตให้ปล่อยตัวเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา ในขณะที่หากการรวบรวมพยานหลักฐานในทุกจุดที่กลุ่มผู้ชุมนุมก่อเหตุปะทะ ปาสี ปลาปลาร้า หรือกระทำการใดๆที่ผิดกฎหมาย ก็จะมีการออกหมายเรียกและดำเนินการเอาผิดตามข้อกฎหมายทันที ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นเตรียมที่จะดำเนินการเพิ่มเติมอีก 3 ข้อกล่าวหาคือ ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน,ฝ่าฝืน พรบ.โรคติดต่อ และ ฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน”
พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวต่ออีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บทุกคนจะเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนของแต่ละพื้นที่ ทั้งที่ สภ.เมืองขอนแก่น และ สภ.ท่าพระ และหลังจากการปะทะก็ได้มีการพูดคุยกันกับแกนนำในการเจรจาตามยุทธวิธี เพื่อให้การชุมนุมและการแสดงออกตามสิทธิ์นั้นอยู่ในกรอบของกฎหมาย อย่างไรก็ตามหากการที่แกนนำผู้ชุมนุมหรือกลุ่มผู้ชุมนุมจะแจ้งความเอาผิดหรือดำเนินการใดๆตามข้อกฎหมายในการที่จะเอาผิดกับเจ้าพนักงานที่ปฎิบัติหน้าที่ก็ขอให้แจ้งความเอาผิดกับตนเองเพียงคนเดียว เนื่องจากเป็นผู้สั่งการและควบคุมเหตุการณ์ในทุกจุดที่เกิดขึ้นตลอดทั้งช่วงของการปฎิบัติภารกิจของรองนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และ ส.ส.ทุกคนที่ จ.ขอนแก่น เมื่อวานที่ผ่านมา ( 14 ต.ค.)