ขอนแก่น เข้มคลัสเตอร์โรงงานแหอวน-แรงงานชาวเมียนมาร์และเรือนจำ สั่งห้ามคนเข้า-ออกและบังคับใช้มาตรการบับเบิ้ลแอนด์ซีล เด็ดขาด ฝ่าฝืนจับปรับจริงตามข้อกฎหมายทุกข้อ พร้อมประสาน ศบค.พิจารณาวัคซีนให้กับพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้ร้อยละ 70 ทั้งจังหวัดรับการเปิดประเทศตามที่ “บิ๊กตู่”กำหนด
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 19 ต.ค.2564 ที่ สำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นพ.ภาคี ทรัพย์พิพัฒน์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น ประชุมร่วมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ขอนแก่น เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขอนแก่นพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 184 ราย โดยพบว่าเป็นกลุ่มคลัสเตอร์ใหม่ที่เกิดขึ้น ทั้งที่ อ.น้ำพอง และ อ.มัญจาคีรี แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงและมีคำสั่งเด็ดขาดให้โรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นคลัสเตอร์ที่กำลังระบาดในเขต อ.เมือง ทั้งโรงงานแหอวน และ กลุ่มแรงานชาวเมียนมาร์ ที่ตั้งแต่วันนี้จะต้องกำหนดมาตรการบับเบิ้ลแอนด์ซีล อย่างเข้มงวด ห้ามคนเข้าและออกเด็ดขาด โดยคณะทำงานจะลงพื้นที่ตรวจคัดกรองเชิงรุก เข้าไปในพื้นที่เพื้อตรวจแยกกลุ่มเสี่ยงและ ผู้ป่วย ให้เข้าสู่ขั้นตอนการรักษา กักตัว และห้ามคนเข้า-ออก จากเขตโรงงานอย่างเด็ดขาด เช่นเดียวกันกับที่ เรือนจำ อ.พล ที่พบการระบาดของกลุ่มผู้ต้องขังที่ กรมราชทัณฑ์ได้ยกระดับมาตรการควบคุมและป้องกันอย่างเข้มงวดเช่นกัน
“ ขอนแก่น วันนี้จัดอยู่ในกลุ่มจังหวัดที่จับตาและเฝ้าระวังของ ศบค. จากการพบผู้ป่วยรายใหม่ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคลัสเตอร์ โรงงานอุตสาหกรรม แรงงานชาวต่างชาติ เรือนจำ และ ตลาดสด รวมไปถึงเขตชุมชน ดังนั้นโรงงานอุตสาหกรรม และกลุ่มคัลสเตอร์ที่ถูกกำหนดวันนี้จะต้องปิดตัวเองอย่างเข้มงวด ขณะที่คลัสเตอร์ตลาดสด งานบุญประเพณี หรือในย่านชุมชน ก็ถูกจำกัดการจัดกิจกรรมหรือการจับจ่ายเลือกซื้อสินค้า โดยคณะทำงานจะลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรการป้องกันและควบคุมทุกวัน เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดเพิ่มมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังได้มีการพิจารณาอนุมัติจัดตั้งฮอตพิเทล เพิ่มขึ้นอีก 9 แห่งทั้งจังหวัด รองรับผู้ป่วยในกลุ่มระดับสีเขียวหรือการประเมินอาการของทีมแพทย์ได้อีกกว่า 1,000 เตียง ในการเตรียมการรับมือกับภาวะเหตุการณ์ที่อาจะเกิดขึ้น ในภาพรวมทั้งหมด”
ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้เหลืออีกไม่กี่วันก็จะถึงการเปิดประเทศตามที่รัฐบาลกำหนด ที่จะเริ่มในวันที่ 1 พ.ย. ดังนั้นทุกมาตรการควบคุม ป้องกันและรักษาจะต้องเดินไปด้วยการคู่ขนานกับการตรวจเชิงรุกและการปฎิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ซึ่ง ฝ่ายสาธารณสุข ทั้งระบบจะลงรายละเอียดได้อย่างรัดกุมและรัดเข็มขัดในจุดเสี่ยง ที่จะทำงานร่วมกันเป็นทีมในทุกๆฝ่าย อย่างไรก็ตามนอกจากมาตรการป้องกันและควบคุม รวมทั้งการบังคับใช้ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวดแล้ว การสร้างภูมิคุ้มกันหู่ ด้วยการเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป โดยขณะนี้ได้กำหนดเป้าหมายพื้นที่อำเภอที่ได้รับวัคซีน 100 % ไว้ที่ อ.เปือยน้อย โดยจังหวัดจะประสานงานร่วม ศบค.ในการพิจารณาวัคซีนทางเลือกเข้ามาในพื้นที่ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ขณะที่ภาพรวมทั้งหมดในการรับการเปิดประเทศคนขอนแก่น กว่าร้อยละ 70 หรือประมาณ 1.2 ล้านคน จะต้องได้รับวัคซีนเข็มแรกได้ได้ครบภายในต้นเดือน พ.ย.เช่นกัน เพื่อความมั่นใจในการเปิดประเทศที่ขอนแก่นนั้นมีความปลอดภัย และมีมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอย่างเข้มงวดตามแนวทางที่รัฐบาลกำหนด
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797