นายกเล็กฯขอนแก่น เปิดแผนรับมือน้ำท่วมเขตเมืองเฝ้าระวังน้ำก้อนใหม่จากชัยภูมิ และการระบายน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์อย่างเข้มงวด พร้อมประสานงานร่วมชลประทานสูบน้ำออกจากเมืองดันมวลน้ำที่อาจจะตีกลับ ให้ไหลลงสู่แม่น้ำชี พร้อมระบุบึงขนาดใหญ่ใจกลางเมืองยังรับน้ำได้อีกกว่า 2.5 ล้าน ลบ.ม.
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 20 ต.ค.2564 ที่สำนักงานเทศบาลนครขอนแก่น หรือ ทน. นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ประชุมร่วมคณะทำงานทุกฝ่ายในการประเมินสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเมืองภายหลังจากที่เขื่อนอุบลรัตน์ มีการปรับการบายน้ำเป็นวันละ 20 ล้าน ลบ.ม. จากสถานการณ์น้ำที่เต็มความจุอ่าง รวมทั้งการตดตามมวลน้ำก้อนใหญ่ลูกที่ 2 จาก จงชัยภูมิที่จะไหลมาตามแม่น้ำชี ตามแผนการระบายน้ำของกรมชลประทาน
นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า การปรับการระบายน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ มาตามแนวมาน้ำพองนั้น ขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 20 ล้าน ลบ.ม. สูงสุดที่ 35 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน จากภาวะน้ำกักเก็บของเขื่อนอุบลรัตน์ในขณะนี้ที่มีกว่า 100% ของความจุอ่างหรือประมาณ 2,400 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจากการประสานข้อมูลร่วมทุกฝ่าย หากการระบายน้ำยงคงอยู่ในลักษณะเช่นนี้ แม่น้ำพองก็ยังคงสามารถที่จะรองรับน้ำได้อีกมาก ประกอบกับประตูระบายน้ำห้วยเสือเต้น ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการบริหารจัดการน้ำตามแนวแม่น้ำพองที่จะไหลเข้าเขตเมืองชั้นในนั้นสามารถใช้งานได้ดีและมีการปิดประตูระบายน้ำในจุดดังกล่าวได้ทำให้มวลน้ำที่ระบายมาจากเขื่อนอุบลรัตน์จะไหลลงสู่แม่น้ำพอง และบรรจบกับแม่น้ำชี ที่ ต.บึงเนียม และ ต.พระลับ อ.เมือง ตามลำดับต่อไป
“ ขณะนี้มีการยืนยันชัดเจนว่ามวลน้ำก้อนใหญ่ก้อนที่ 2 ประมาณ 1,200 ล้าน ลบ.ม. จะไหลมาตามแม่น้ำชีและเข้าเขต พื้นที่ ต.ท่าพระ,เมืองเก่า,พระลับ และ อ.เมือง ซึ่งขณะนี้การดันน้ำในจุดตัดดังกล่าว ที่ประตูระบายน้ำ D8 ต.พระลับ ระดับน้ำภายนอกสูงกว่าระดับน้ำในเขตเมืองอยู่ที่ประมาณ 3.80 เมตร ซึ่งการบริหารจัดการร่วมเทศบาลนครขอนแก่น ร่วมกรมชลประทานและเทศบาล ต.พระลับ ในจุดดังกล่าวเพื่อกันไม่ให้ปริมาณน้ำที่มีจำนวนมาก ทั้งที่มีอยู่ในขณะนี้และมวลน้ำก้อนที่ 2 ที่กำลังเดินทางมาจะไหลเข้ามาในพื้นที่ คณะทำงานจึงมีการปิดประตูระบายน้ำและมีการสูบน้ำออกจากเขตเมืองด้วยเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 4 เครื่อง ซึ่งน้ำที่สูบออกไปจากเขตเมืองนั้นจะไปดันมวลน้ำจากแม่น้ำชีที่อาจจะไหลตีกลับเข้ามา ซึ่งเมื่อมวลน้ำเดินทางจุดประตูระบายน้ำ D8 และไม่มีทางเข้ามาด้วยการปิดประตูระบายน้ำ และยังคงถูกกระแสนน้ำจากการสูบที่ผลักดันน้ำออกไป ก็จะทำให้มวลน้ำดังกล่าวจะไหลไปตามเส้นทางน้ำและไหลลงสู่แม่น้ำมลและแม่น้ำโขงต่อไป”
นายธีระศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า หากการระบายน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ อยู่ในระดับที่ 20-25 ล้าน ลบ.ม.ต่อวันและไม่ขยับขึ้นสูงไปถึง 35-50 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน การเกิดสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเมืองชั้นในหรือพื้นที่โดยรอบเขตเทศบาลฯจะไม่เกิดขึ้น ประกับมวลน้ำหลากจากการระบายน้ำจากพื้นที่ตำบลข้างเคียงที่ผ่านเขตเมือง ทีมีการบริหารจัดการน้ำร่วมกันละมีการจัดการจราจรทางน้ำทุกวันอย่างเป็นระบบ อีกทั้งบึงขนาดใหญ่ของเทศบาล คือบึงแก่นนครที่ยังคงรับน้ำได้อีกกว่า 500,000 ลบ.ม. และ บึงทุ่งสร้างที่สามารถรับน้ำได้อีกกว่า 2 ล้าน ลบ.ม. มวลน้ำที่ไหลเข้าพื้นที่จะถูกพักและส่งต่อการระบายน้ำในเส้นทาง ตามแนวทางที่กำหนด ประกอบกับการติดตั้งเครื่องสูบน้ำในเขตเทศบาลฯรวมกว่า 7 จุดและการวัดระดับน้ำในทุกชั่วโมง จึงมั่นใจว่ามวลน้ำจากพายุฝนทีตกลง 3 ลูกติดต่อกัน ประกอบด้วยเตี๋ยนหมู่,ไลอ้อนร็อกและคมปาซุ จะถูกจัดการจราจรทางน้ำให้ไหลลงสู่แม่น้ำพองและแม่น้ำชี ได้อย่างคล่องตัว โดยที่จุดที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก หรือจุดเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วม ทศบาลฯได้วางกำลังในการตรวจติดตามสถานการณ์และประเมินสถานการณ์ตลอดทั้ง24 ชม.เพื่อความปลอดภัยของคนในชุมชนและแผนเผชิญเหตุที่เทศบาลฯได้กำหนดไว้แล้วในภาพรวมทั้งหมด
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797