หมอขอนแก่น บุก โรงงาน ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ต่อเนื่อง ขณะที่วัคซีนเด็กเริ่มฉีดพรุ่งนี้เน้นกลุ่ม อายุ 10-11 ปี เป็นอันดับแรก
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 ม.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ บ.ซี เค ชูส์ ประเศไทย จำกัด ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น แพทย์ พยาบาล รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ จาก รพ.สต.บ้านทุ่ม ลงพื้นที่ฉีดวัคซีนเชิงรุกให้กับกลุ่มสถานประกอบการตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขและคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด ที่ขณะนี้เข้าสู่แผนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็ม 3 โดยในวันนี้มีพนักงานของโรงงานเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็ม 3ทั้งสิ้น 550 คน ภายใต้มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ยอดรวมของชาวขอนแก่นขณะนี้นั้นมีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนไปแล้ว 1,154,856 คน จากจำนวนเป้าหมายที่กำหนดไว้ 1,256,172 คน ดังนั้นการปฎิบัติงานเชิงรุกตามการจัดสรรวัคซีนที่ ศบค.ได้ส่งมอบมานั้น หน่วยบริการวัคซีนทุกหน่วยได้ดำเนินการกันอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง ทั้งการให้บริการที่สถานพยาบาล การให้บริการเชิงรุกและขณะนี้เข้าสู่ขั้นตอนของการให้บริการในกลุ่มสถานประกอบการ ซึ่งหน่วยงานใดหรือองค์กรใด หรือโรงงานใด ที่พร้อมที่จะให้คณะทำงานด้านวัคซีนเข้าพื้นที่เพื่อทำการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นเข็มใด สามารถที่จะติดต่อมาที่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อหรือสถานพยาบาลในพื้นที่ได้ทันที เพื่อให้การสรางภูมิคุ้มกันหมู่ป้องกันโควิด-19 นั้นครอบคลุมทุกพื้นที่ให้ได้มากที่สุด
“ขณะนี้เข้าสู่ขั้นตอนของการเตรียมการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเด็กที่มีอายุ 5-11 ปี ซึ่งจากข้อมูลการสำรวจพบว่า ในกลุ่มอายุดังกล่าวนั้นทั้งจังหวัดมีกว่า 130,000 คน ซึ่งขณะนี้เข้าสู่ขั้นตอนการยินยอมของผู้ปกครองในการให้บุตร-หลานเช้ารับการฉีดวัคซีนดังกล่าว ซึ่งวัคซีนชุดแรกจังหวัดได้เสนอขอรับการจัดสรรจากกระทรวงสาธารณสุข 20,000 โดส เพื่อทำการฉีดให้กับเด็กๆจำนวน 20,000 ราย ที่จะเริ่มทำการฉีดวัคซีนในกลุ่มดังกล่าวได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (28 ม.ค.)”
ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ในการบริหารจัดการวัคซีนในกลุ่มอายุดังกล่าวนั้นจังหวัดจะเน้นในกลุ่มอายุ 10-11 ปีเป็นกลุ่มแรก เนื่องจากเป็นกลุ่มอายุที่อยู่ในระดับชั้น ประถมศึกษาตอนปลาย และกลุ่มระดับชั้นทีจะต้องศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โดยจะให้กลุ่มอายุดังกล่าวเข้ารับการฉีดวัคซีนที่สถานพยาบาลที่กำหนดไว้ จากนั้นก็จะเรียงลำดับตามกลุ่มอายุและช่วงชั้นต่างๆ และหากการฉีดวัควีนครบโดสตามที่รัฐบาลกำหนด ก็จะมีการพิจารณาเปิดการเรียนการสอนของสถาบันการศึกษาต่างๆตามขั้นตอนต่อไป