แม่ค้ารับเย็บผ้าสุดงง พระวัดดังย่องเงียบงัดตู้ควบคุมไฟ ก่อนขโมยตัดสายไฟไปหน้าตาเฉย นำคลิปแจ้งตำรวจ-รองเจ้าอาวาสเรื่องเงียบ คาดเกิดจากปัญหาการใช้ห้องน้ำของวัด วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดการด่วนเพราะพฤติกรรมสุดแสบชาวบ้านล้วนรู้ดีแต่ไม่มีใครทำอะไรได้
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 17 มี.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่ภาพที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บริเวณศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ถ.เหล่านาดี ตรงข้ามโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย เขตเทศบาลนครขอนแก่น ในเพจ “ขอนแก่นมีอะไรบอกด้วย ช่วยเหลือแบ่งปันสารประโยชน์” ซึ่งบันทึกภาพเหตุการณ์คนร้ายลักษณะแต่งกายคล้ายพระภิกษุสงฆ์ก่อเหตุงัดตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าของพ่อค้าแผงลอย ก่อนจะทำการตัดสายไฟยาว 15 เมตรหลบหนีไผเหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา พร้อมข้อความระบุว่า “คงจะเส้นใหญ่นะพระรูปนี้ขโมยสายไฟหลักฐานชัดเจนไม่มีใครทำอะไรมันได้เดี๋ยวเจอหมอปลา”
ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ร้านรับเย็บผ้าและซ่อมแซมเสื้อผ้า ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าวัดนันทิการาม ริม ถ.เหล่านาดี ตรงข้ามโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย เขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยพบกับ นางสัมฤทธิ์ จันทะวงษา อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/80 ชุมชนเหล่านาดี 12 เขตเทศบาลนครขอนแก่น เจ้าของร้านรับเย็บผ้าและซ่อมแซมเสื้อผ้า ซึ่งได้พาผู้สื่อข่าวเดินดูจุดที่คนร้ายที่ปรากฏตามคลิปภาพดังกล่าว ที่บริเวณเสาไฟฟ้า ที่ติดตั้งอยู่บริเวณศูนย์หนังสือ ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น โดยมีการนำแม่กุญแจมาล็อคไว้ โดยที่บริเวณด้านล่างของกล่องมีร่องรอยของการงัดแงะ โดยมีการนำสายไฟฟ้าชุดใหม่มาเปลี่ยนชุดที่ถูกขโมยไปเพื่อใช้งานแทน
นางสัมฤทธิ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยได้มาเปิดร้านตามปกติ แต่พบว่าสายไฟของร้านซึ่งเชื่อมต่อกับกล่องควบคุมระบบไฟ ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและเทศบาลนครขอนแก่น มาติดตั้งไว้ให้นั้นขาดหายไปประมาณ 15 เมตร โดยมีร่องรอยถูกตัดขาด จึงเดินไปตรวจสอบที่กล่องควบคุมไฟก็พบว่ามีรอยถูกงัดบริเวณมุมก่องด้านล่าง ในขณะที่กล่องมีการล็อคด้วยแม่กุญแจอย่างแน่นหนา จึงไปขอภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียง เพื่อตรวจสอบก็พบว่าคนร้าย แต่งกายคล้ายพระภิกษุสงฆ์ ได้เข้ามาก่อเหตุงัดกล่องควบคุมไฟและตัดสายไฟไป ซึ่งจากการสอบภามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงก็ต่างยืนยันว่าคนร้ายในภาพรคือพระลูกวัดนันทิการาม จึงนำคลิปภาพ แจ้งยังรองเจ้าอาวาสฯได้รับทราบถึงพฤติกรรมของพระลูกวัด ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่าอย่าไปทำอะไรกับหลวงตา จากนั้นจึงนำคลิปภาพเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ตำรวจมาตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุและตรวจสอบกุฎิของพระรูปดังกล่าวก็พบของกลางจึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองขอนแก่น และแจ้งว่าจะนัดไกล่เกลี่ย เรื่องก็เงียบหายไป
“ ตอนแรกคิดว่าน่าจะเป็นคนเร่รอน หรือคนไร้บ้านหรือคนยากจน ก็จะไม่เอาเรื่องหรือติดใจอะไรเพราะสายไฟเพียง 15 เมตร ทั้งที่ผลกระทบเกิดขึ้นกับร้านที่ไม่สามารถเปิดร้านได้ ต้องไปหาซื้อสายไฟฟ้ามาต่อใหม่เพื่อให้ร้านได้เปิดให้บริการกับลูกค้าได้ แต่เมื่อเปิดภาพวงจรปิดก็พบว่าคนร้ายเป็นพระวัดนันทิการาม ซึ่งเป็นวัดที่คนเคารพเลื่อมใสศรัทธาและมาทำบุญอยู่โดยตลอด จึงนำคลิปภาพเข้าหารือรองเจ้าอาวาสฯ,ประธานชุมชนฯ เรื่องก็เงียบจึงนำคลิปภาพเป็นหลักฐานเข้าแจ้ความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่ออยากรู้ว่าหลวงตาทำแบบนี้ทำไม ใช่กิจของสงฆ์หรือไม่ เพราะกล่องควบคุมไฟดังกล่าว ไม่ใช่ของวัดเป็นจุดที่เทศบาลฯและการไฟฟ้า มาติดตั้งให้กับกลุ่มผู้ค้าหาบเร่แผงลอย อีกทั้งที่ตั้งของร้านก็อยู่ในจุดที่เทศบาลฯกำหนด”
นางสัมฤทธิ์ กล่าวต่ออีกว่า ร้านรับเย็บผ้าและซ่อมแซมเสื้อผ้า ตั้งอยู่ที่จุดนี้มากว่า 7 ปี มีการขออนุญาตกับเทศบาลฯในการตั้งร้านในจุดผ่อนปรน และ มีการขอใช้ไฟฟ้าที่ถูกต้อง ซึ่งเทศบาลฯและการไฟฟ้า ได้มาตรวจสอบและผ่อนปรนให้กับผู้ที่ทำมาหากินอย่างสุจิตให้กับชุมชนเหล่านาดี โดยไม่ได้ใช้ไฟวัดหรือประกออาชีพล้ำเขตวัดแต่อย่างด ขณะที่งานบุญและงานกิจกรรมต่างๆร้านค้า และชุมชนก็เข้าไปร่วมงานกับทางวัดโดยตลอด ซึ่งการกระทำดังกล่าวของหลวงตา น่าจะเกิดจากการที่ตนเองไปเข้าห้องน้ำของวัด เมื่อเดือน ธ.ค.2564 และหลวงตา มาต่อว่าว่าเข้าห้องน้ำของพระทำไม ทั้งที่ห้องน้ำของวัด ญาติ โยม ก็ช่วยกันบริจาคสร้างขึ้นให้เป็นห้องน้ำสาธารณะ ซึ่งเมื่อถูกหลวงตาต่อว่าก็ไม่มีใครไปใช้ห้องน้ำอีกเลย จนกระทั่งมาพบภาพหลวงต่อก็เหตุดังกล่าว จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เจ้ามาสอบสวนถึงพฤติกรรมและการกระทำของหลวงตาด้วย เพราะนอกจากการขโมยสายไฟแล้ว ยังคงมีพฤติกรรมทั้งการปล่อยเงินกู้ และพฤติกรรมต่างๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเป็นพระ ซึ่งในฐานะตนเองที่เป็นชาวพุทธไม่อยากปล่อยให้พระที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ยังคงดำเนินการในลักษณะเช่นนี้ต่อไป ซึ่งคนในชุมชนล้วนต่างรู้ถึงพฤติกรรมของหลวงตารูปนี้เป็นอย่างดี จึงอย่างให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งจัดการทั้งเรื่องคดีที่เกิดขึ้นและพฤติกรรมในด้านต่างๆเป็นการเร่งด่วน
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797 >