กฟผ.เดินหน้าผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด นำสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ชมโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี
กฟผ. นำคณะสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ดูงานเชิงประจักษ์ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ พร้อมสัมผัสวิถีชุมชนรอบพื้นที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสิรินธร แหล่งผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เตรียมเดินหน้าต่อโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น
เมื่อที่ 25 พฤษภาคม 2565 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นำโดยนายฉัตรชัย มาวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำและพลังงาหมุนเวียน นายสังวาล พรมสำลี หัวหน้ากองโรงไฟฟ้าเขื่อนสิรินธร และนางอโนซา จงก้องเกียรติ หัวหน้ากองประสานสื่อสารสายงานหลัก ฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์องค์การ น.ส.ชนินาถ เจริญผล หัวหน้าแผนกสื่อสารองค์การ กฟผ. ให้การต้อนรับสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ภายใต้การนำของ น.ส.อภิสราธรณ์ ปัณณะมณีธนโชติ วิทยากรระดับ 8 กองประชาสัมพันธ์และชุมชนสัมพันธ์ระบบส่ง (กชส-ย.) ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืน (ชยย.) ฝ่ายปฏิบัติการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อปอ.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตัวแทนโรงไฟฟ้าน้ำพอง และตัวแทนโรงไฟฟ้าเขื่อนอุบลรัตน์ ในกิจกรรมนำเครือข่ายสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ศึกษาดูงานเชิงประจักษ์ ณ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 -26พฤษภาคม 2565 เพื่อสื่อสารสร้างความรู้ ความเข้าใจแผนการพัฒนาโครงการโซลาร์เชซลล์ลอยน้ำไฮบริดของ กฟผ.เปิดมุมมองการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด ผ่านการรับฟังบรรยายสรุป ลงพื้นที่ศึกษาดูงาน พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับชุมชน สื่อมวลชนจังหวัดอุบลราชธานี และผู้บริหาร กฟผ. ณ เขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี
นายฉัตรชัย มาวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำและพลังงานหมุนเวียน กล่าวว่า โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสิรินธรเป็นโครงการนำร่องแห่งแรกของ กฟผ. ที่ผสมผสานการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังน้ำจากเขื่อน มีขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ และได้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ไปแล้ว เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2564 โดยการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ได้ผลสำเร็จเป็นไปตามเป้าหมาย คือ สามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดที่มีเสถียรภาพ มีราคาถูก เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ในปัจจุบันโรงไฟฟ้าแห่งนี้ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวและศึกษาดูงานที่สำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทั้งประเทศ มาสัมผัสความงดงามและยิ่งใหญ่ของโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างรายได้ให้กับชุมชน จากการที่นักท่องเที่ยวได้เข้ามาจับจ่ายสินค้าชุมชน และสนับสนุนกลุ่มแพท่องเที่ยวในพื้นที่อีกด้วย
จากนั้นได้พาคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ศึกษาดูงานโรงไฟฟ้าฯ ชมเส้นทางเดินชมธรรมชาติ และเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้สวนเกษตรผสมผสานชีววิถี “หมอลำ ทำเกษตร” ที่เขื่อนสิรินธรได้ให้การสนับสนุน โดยศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน กฟผ.ระดับประเทศ ประเภทราษฎร ในปี 2564 รวมทั้งได้ร่วมรับฟังประสบการณ์ตรงจากชุมชนที่อาศัยรอบพื้นที่เขื่อนสิรินธร แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสื่อมวลชนจังหวัดอุบลราชธานี และรับฟังเรื่องเล่าประสบการณ์การทำงานและความท้าทายของงานก่อสร้างโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนสิรินธรผ่านมุมมองของผู้รับผิดชอบโครงการ
กฟผ. มีแผนพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2561-2580 (PDP 2018 Rev.1) ที่ส่งเสริมผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดหรือพลังงานหมุนเวียน (RE) เพื่อการมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็นศูนย์ (Carbon Neutrality) โดย กฟผ. มีแผนพัฒนาโครงการฯ ในพื้นที่ 9 เขื่อน 16 โครงการ รวมขนาดกำลังการผลิต 2,725 เมกะวัตต์ และจากผลสำเร็จของโครงการฯเขื่อนสิรินธร กฟผ. ได้เดินหน้าพัฒนาโครงการต่อที่เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ขนาดกำลังผลิต 24 เมกะวัตต์ พร้อมต่อยอดเพื่อเพิ่มเสถียรภาพของการผลิตไฟฟ้าให้ดียิ่งขึ้น โดยติดตั้งแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System – BESS) ทำให้การผลิตไฟฟ้ามีเสถียรภาพในช่วงการสับเปลี่ยนระหว่างพลังน้ำและพลังงานแสงอาทิตย์ ส่งผลให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น