วันพฤหัสบดี, 28 พฤศจิกายน 2567

ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัดแถลงโต้เงินครู สก.ขก.หาย เพิ่ม 1,175 ล้านบาท ว่าเป็นเท็จ

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 15 พ.ค.ที่ ห้องประชุมสำนักงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัด ถ.มิตรภาพ อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เป็นประธานงานแถลงข่าว เรื่อง ข้อเท็จจริงในการบริหารงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด หลังดร.วิศว์ อัครสันติคุณ ประธานชมรมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น พร้อมพวกได้เผยแพร่ข่าวข้อมูลต่อสื่อสารมวลชน กล่าวหา คณะกรรมการดำเนินงาน สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัด ชุดปี 2562 ต่อเนื่องปี 2563 ว่าร่วมกันปกปิดซ่อนข้อเท็จจริง โดยมีนายทนงศักดิ์ วังสงค์ ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด พร้อมด้วยนายเพ็ชรัตน์ อ่างยาน ร่วมชี้แจง ต่อคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ตลอดจน คณะผู้บริหาร บุคลากร ของสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ขอนแก่นจำกัด และสื่อมวลชนที่ร่วมรับฟังการชี้แจงข้อมูลในครั้งนี้


นายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด กล่าวว่า ตามที่ ดร.วิศร์ อัครสันติกุล นายไพฑูรย์ พิมพ์ทอง นายอุดม สงวนชม และดร.จิรพงษ์ ไชยยศ ได้เผยแพร่ข่าวข้อมูลต่อสื่อมวลชน สื่อออนไลน์จำนวนหนึ่งได้ กล่าวหาคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ปี 2562 ต่อเนื่องปี 2563 ว่าร่วมกันปกปิดซ่อนข้อเท็จจริงพยานหลักฐานด้านการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เมื่อคราวประชุมวันที่ 4 ธันวาคม 2562 ว่าเงินสหกรณ์หายไปเป็นเงินกว่า 1,175 ล้านบาท แต่ที่นำเสนอว่ามีเงิน ไปเพียง 396 ล้านบาท มิได้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สหกรณ์ฯ ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของมวลสมาชิกโดยทำเรื่องให้นายทะเบียนให้คณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด พ้นจากตำแหน่ง เป็นการกล่าวหาที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด และคณะกรรมการดำเนินการ อย่างร้ายแรง ข้อมูลที่ทางชมรมฯได้จากการไปขอคัดคำฟ้องศาลที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ดำเนินการฟ้องไปเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2563 แล้วนำมาตีแผ่ในสื่อมวลชนด้วยมารยาทคดีอยู่ระหว่างดำเนินการเขาจะไม่กระทำกันจะทำให้เสียรูปคดี และก้าวล่วงการทำงานของเจ้าพนักงานและทนายความ แต่เมื่อชมรมฯได้นำมาเปิดเผยคณะกรรมการดำเนินการ เมื่อเช้าประชุมวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 จึงจำเป็นต้องชี้แจงทำความเข้าใจข้อเท็จจริงดังกล่าว
ขอร้องให้พวกเรามาช่วยกันคิดวางแผนพัฒนาสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ให้เกิดความก้าวหน้า เป็นที่เชื่อถือของสถาบันการเงินต่างๆที่เป็นพันธมิตรกับเราและหาวิธีการช่วยเหลือสมาชิกเราทุกคนให้อยู่ดีมีสุข ตามอุดมการณ์ ของสหกรณ์ฯ


ขอให้ความมั่นใจกับมวลสมาชิกว่าสหกรณ์ของเรามีความมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืนเพื่อเป็นที่พึ่งของมวลสมาชิกสื่อไปปัจจุบันการดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัดดำเนินไปอย่างปกติอย่าหวั่นวิตกกับข่าวลือดังกล่าวและคณะกรรมการดำเนินการได้มีหนังสือชี้แจงนายทะเบียนและสถาบันการเงินต่างๆเพื่อให้เป็นข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริง พร้อมกันนี้ ในช่วงเช้า ตนพร้อม คณะกรรมการดำเนินการ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัด จำนวน 14 คน ในฐานะผู้เสียหาย ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับนายวิศร์ อัครสันติกุล อายุ 69 ปี ผู้ต้องหา โดยกล่าวหาว่า หมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร เหตุเกิดที่ ต.ศิลาอ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 ร้อยตำรวจเอกสิงหา หงษ์อ่อน รอง สว. (สอบสวน)ฯรับแจ้งไว้แล้ว จะได้ทำการสอบสวนต่อไป และนัดสอบปากคำพยานผู้เสียหายวันที่ 17 พ.ค.2563 เวลา 10.00 น.ที่สภ.เมืองขอนแก่น ต่อไป


ด้านนายทนงศักดิ์ วังสงค์ ผู้จัดการ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด กล่าวเสริมว่าเพื่อเป็นการให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่มวลสมาชิกทุกท่าน และสื่อมวลชน คณะกรรมการขอนำเรียนข้อมูลรายละเอียดลำดับขั้นตอนพอสังเขป เริ่มจากการติดตามบัญชีเงินฝากประจำธนาคารไทยพาณิชย์จำกัดมหาชนสาขาดินแดงเลขบัญชี 144 -101918 -9 ตามขั้นตอนตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2562 เรื่อยมาจนได้statement จากธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน) แต่เมื่อคณะกรรมการได้ดูเอกสารการประชุมคณะกรรมการดำเนินงานครั้งที่ 31/2562 เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2552 ซึ่งระบุยอดเงินฝากประจำธนาคารดังกล่าวจำนวน 431,862,070บาท ประกอบของสมุดคู่ฝากมียอดปรากฏจำนวน 431,941,784.58 บาท
ซึ่งเป็นข้อมูลในการสันนิษฐานเบื้องต้นว่าเงินหายไปจำนวน 431,862,070 บาท ดังนั้นจากข้อสันนิษฐานเบื้องต้นมีตัวเลขไม่เป็นจริงจากเอกสารประชุมกับสมุดคู่ฝากจะเป็นข้อหาทำเอกสารอันเป็นเท็จหรือปลอมแปลงเอกสาร ดังนั้นในวันประชุมใหญ่วิสามัญคณะกรรมการยังไม่ได้รับเอกสารการเบิกถอนแต่อย่างใด การที่ชมรมอ้างว่าไม่นำรายละเอียดมาเบิกถอนตามที่ชมรมให้ข่าวว่าปกปิดทุกต้นข้อเท็จจริงเป็น การกล่าวหาลอยๆไม่มีข้อมูลชัดเจนทำให้คณะกรรมการดำเนินการได้รับความเสียหาย


เมื่อ คณะกรรมการดำเนินการได้รับเอกสารทั้งหมดในส่วนที่เหลือจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)สาขาถนนดินแดงและประชุมพิจารณามอบให้ผู้จัดการตรวจสอบเมื่อมีการเบิกถอนเงินจากบัญชีแล้วมีการโอนกลับเข้าบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นหรือไม่และได้มอบเอกสารทั้งหมดให้ทนายความดำเนินการตามประมวลกฎหมายต่อไป ซึ่งทางสภ.เมืองขอนแก่น ได้รับเอกสารทั้งหมดเรียบร้อย และอยู่ระหว่างดำเนินการทางคดี
ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการทางคดีคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัด ได้ติดตามคดีเป็นระยะมีหลักฐานเป็นหนังสืออ้างอิงได้อย่างชัดเจน การที่ชมรมฯกล่าวหาว่าละเลยในการติดตามคดีจึงเป็นการกล่าวหาลอยๆคณะกรรมการดำเนินการต้องขอขอบคุณคณะทีมนายตำรวจสภ. เมืองขอนแก่น ที่ท่านได้เอาใจใส่เป็นอย่างดียิ่ง เนื่องจากเป็นคดีที่สำคัญท่านต้องรอบคอบในการรวบรวมพยานหลักฐานระยะเวลาล่วงเลยมาสักพักเราจึงขอให้ทนายฟ้องศาลโดยตรง ในวันที่ 17 เมษายน 2563 โดยศาลนัดไต่สวนข้อมูลฟ้อง วันที่ 3 สิงหาคม 2563 ควบคู่ไปกับการดำเนินของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เมืองขอนแก่น
ปัจจุบันเรื่องอยู่ในระหว่างการดำเนินคดี คณะกรรมการดำเนินการจึงขอเรียนข้อเท็จจริงเบื้องต้น ให้สมาชิกทราบว่าคณะกรรมการดำเนินการมีความมุ่งมั่น มีความตั้งใจในการแก้ปัญหาสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้ปล่อยปละละเลยหรือไม่ได้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ตามที่ชมรมฯกล่าวหา และขอยืนยันว่ายอดเงินที่หายไปจากบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนดินแดง กทม.บัญชีเลขที่ 144 -101918-9 ไม่ใช่ยอด 1,175 ล้านบาท ดังที่ชมรมฯให้ข่าวแต่อย่างใด เพราะชมรมฯมีข้อมูลเฉพาะใบเบิกถอน แต่หลักฐานการโอนกลับมาบัญชีของสหกรณ์ครูขอนแก่น จำกัด สาขามอดินแดง จำนวน 770 ล้านบาท ทางชมรมฯไม่มีหลักฐาน หลังจากมีการ ตรวจสอบเอกสารที่มีทั้งหมดจำนวนเงินที่ถูกประทุษร้ายไปจริงจำนวน 450 ล้านบาท (ไม่ได้่คำนวณดอกเบี้ย)แต่คณะกรรมการดำเนินการร้องทุกข์ ไปจำนวน 437 ล้านบาท (431,862,070บาท)จึงเป็นตัวเลขกรณีลูกหนี้เงินสดขาดบัญชีโดยยึดข้อมูลเบื้องต้นที่ได้กล่าวมาแล้ว ซึ่งใกล้เคียงกับการตรวจสอบเมื่อได้รับเอกสารมาครบจากทางธนาคาร จริงๆคณะกรรมการไม่อยากจะกล่าวล่วงเพราะอยู่ในระหว่างการดำเนินคดี แต่จำเป็นต้องนำข้อมูลที่ถูกต้องเรียนสมาชิกทุกท่านด้วยความเคารพจึงขอให้สมาชิกทุกท่านได้เชื่อมั่นในการทำงานของคณะกรรมการขอรับรองว่าการดำเนินการทางคดีตามกฎหมายต้องได้ทรัพย์สินของสหกรณ์เราทประทุษร้ายไปได้กลับคืนมาอย่างแน่นอน
จากกรณี ความหวังดีของชมรมฯกับกลายเป็นทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กรทันที ที่คณะกรรมการได้ติดต่อกับสถาบันการเงินแห่งหนึ่งและได้รับอนุมัติให้กู้จำนวน 200 ล้านบาท และได้รับการโอนเงินเข้าบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เรียบร้อยแล้วพอชมรมฯให้ข่าวทางสื่อมวลชน และสื่อคอมพิวเตอร์ ว่าเงินหาย 1,175 ล้านบาท สถาบันการเงินนั้นโอนกลับทันทีมีหลักฐานยืนยันชัดเจนทำให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เสียหายอย่างร้ายแรง

Loading