วันพฤหัสบดี, 28 พฤศจิกายน 2567

ขอนแก่น ตั้งเป้าส่งออกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองปีนี้ทะลุ 200 ล้านบาท พบตลาด เกาหลี ,จีนและ ญี่ปุ่น ปีนี้ รับซื้อไม่อั้น

ขอนแก่น ตั้งเป้าส่งออกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองปีนี้ทะลุ 200 ล้านบาท พบตลาด เกาหลี ,จีนและ ญี่ปุ่น ปีนี้ รับซื้อไม่อั้น และมีตลาดใหม่เพิ่มมาอีก 2 ประเทศ คือสิงคโปร์ และไต้หวัน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ก.พ. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองที่ บ้านหนองเต่า ต.หนองแซง อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น ต่างช่วยกันเร่งเก็บผลผลิตรอบแรกของปี และทำการคัดแยกเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศตามคำสั่งซื้อที่มีมาอย่างต่อเนื่อง

นายสุธีย์ ทินราช ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนมะม่วงบ้านแฮดเพื่อการส่งออก กล่าวว่า เกษตรกร อ.บ้านแฮดเริ่มรวมกลุ่มกันปลูกมะม่วงเพื่อการส่งออก โดยจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนเมื่อปี 2548 ปัจจุบันมีสมาชิก 57 ราย พื้นที่ปลูกรวมกันประมาณ 1,500 ไร่ ตั้งเป้าส่งออกปีละ 1,000 ตัน โดยเชื่อว่าการส่งออกปีนี้จะเพิ่มสูงขึ้นกว่า 1,400 ตัน
ซึ่งจากสภาพทางภูมิศาสตร์ พบว่า พื้นที่บ้านแฮดมีความแห้งแล้ง ลักษณะดินร่วนปนทราย บางพื้นที่เป็นดินทราย ไม่เหมาะกับการเพาะปลูก แต่กลับเหมาะสำหรับปลูกมะม่วงที่ไม่ชอบน้ำขัง ระบายน้ำได้เร็ว ทำให้มะม่วงอำเภอบ้านแฮด มีความหอมและหวานพอดี นอกจากนี้ทางกลุ่มได้ตัดแต่งต้น เพื่อให้อยู่ที่ความสูงประมาณ 2 เมตร ในหนึ่งช่อจะเลือกเก็บแต่ลูกที่สมบูรณ์ไว้เพียง 1-2 ลูก ใช้มะม่วงป่าเป็นต้นตอเพราะหากินเก่ง จะทำให้มะม่วงแข็งแรงและสมบูรณ์

“กลุ่มพยายามมองวิกฤติให้เป็นโอกาส แต่เดิมเน้นเรื่องการส่งออกเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อมีโควิด 19 ปัญหาที่เกิดตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือตลาดต่างประเทศชะงัก ส่งออกไม่ได้เลย เกษตรกรเองต้องปรับตัว จึงได้พูดคุยทั้งกับสมาชิกกลุ่ม หน่วยงานภาครัฐ ขยายฐานลูกค้าในประเทศ รวมทั้งเรียนรู้การขายผ่านทางออนไลน์ เพื่อให้ผ่านวิกฤติไปให้ได้ แม้ปัจจุบันตลาดต่างประเทศจะเริ่มเข้าที่เข้าทาง แต่ยังคงขายออนไลน์ให้กับลูกค้าในประเทศเช่นเดิม”
นายสุธีย์ กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ยอดสั่งซื้อตลาดจากต่างประเทศรับซื้อไม่อั้น ทั้งเกาหลี ,จีน, ญี่ปุ่น และมีตลาดใหม่เพิ่มมาอีก 2 ประเทศ คือสิงคโปร์ และไต้หวัน โดย เกรดที่ส่งออกจะคัดน้ำหนักที่ 300-500 กรัม สำหรับราคาขายที่หน้าสวนจะรับซื้อในกิโลกรัมละ 60 บาท ขายปลีกเกรดพรีเมี่ยมกิโลกรัมละ 70-80 บาท ซึ่งต้องขอบคุณหน่วยงานราชการอำเภอ เกษตรอำเภอ และมหาวิทยาลัย มาให้ความรู้ในการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์ มีการควบคุมคุณภาพตั้งแต่การปลูก จนถึงการเก็บเกี่ยวและส่งออก ลดละและเลิกใช้สารเคมี ที่กระทบกับความเชื่อมั่นในการส่งออก จนได้มะม่วงที่ดีมีคุณภาพ เป็นที่ไว้ใจของลูกค้า

ขณะที่นายวัฒนา หาสวนศรี ตัวแทนผู้ซื้อส่งออก กล่าวว่า ทำการซื้อขายมะม่วงบ้านแฮดมานานกว่า 10 ปีแล้ว ถือเป็นมะม่วงที่มีคุณภาพสูง เพราะเก็บเมื่อแก่ที่ร้อยละ 90 รสชาติดี ตลาดที่ส่งมีทั้งจีน ญี่ปุ่นและเกาหลี มาปีนี้มีตลาดใหม่เพิ่มขึ้นคือสิงคโปร์ เสียตอบรับของลูกค้าถือว่าดีมาก แต่จากสภาพอากาศปีนี้ เชื่อว่าทำให้ผลผลิตลดลง ไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด สำหรับการคัดเลือกมะม่วงนั้น แต่ละประเทศมีความต้องการที่ต่างกัน
การคัดเลือกมะม่วง ต้องดูที่น้ำหนักจะเลือกที่ 300-500 กรัม อย่างตลาดญี่ปุ่น เกาหลี จะชอบที่น้ำหนัก 300 กรัม ขนาดลูกพอรับประทาน ตลาดสิงคโปร์จะชอบน้ำหนัก 500 กรัม สีผิว ความอ่อนแก่พอดีที่ร้อยละ 85-90 มะม่วงจะสุกพอดีเมื่อถึงตลาดต่างประเทศ ตลาดญี่ปุ่นจะเป็นอันดับ 1 ที่ติดต่อมาตลอดต้องการนำมะม่วงบ้านแฮด ซึ่งตรงนี้ให้เครดิตกับเกษตรกรที่มีการควบคุมคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ รักษาคุณภาพตามความต้องการของลูกค้า จึงทำให้มีลูกค้าตามซื้อต่อเนื่อง และยังสามารถขยายฐานตลาดได้เพิ่มขึ้นด้วย”

ด้านนายเสกสม ลินดาพรประเสริฐ นายอำเภอบ้านแฮด จ.ขอนแก่น กล่าวว่า สำหรับการปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองในพื้นที่อีสานครอบคลุม 3 จังหวัด 6 อำเภอ โดยเฉพาะที่ขอนแก่นเป็นแหล่งผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้ที่สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แหล่งปลูกสำคัญอยู่ในอำเภอบ้านแฮด, หนองสองห้อง, บ้านไผ่, พล, มัญจาคีรี และอุบลรัตน์ สำหรับมะม่วงบ้านแฮดทางอำเภอได้วางแผนการส่งออกอย่างต่อเนื่อง ปีที่แล้วทาง จ.ขอนแก่นร่วมกับ ธ.ก.ส. นำสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนมะม่วงบ้านแฮดเพื่อการส่งออก นำมะม่วงไปโชว์และขายในราคาลูกละ 200 บาท ถือว่าได้รับความสนใจจากชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เพราะถือว่าส่งตรงจากสวน เกษตรกรไปขายเองในราคาไม่แพง วางแผนว่าจะขาย 5 วัน แต่ขายหมดภายในวันเดียว ทั้งนี้ปีนี้ในช่วงเดือน พ.ค. 66 ได้รับการประสานจากประเทศญี่ปุ่นนำมะม่วงไปขายอีก จึงเตรียมมะม่วงไว้ 2 ตัน ขายโดยจะเฉลี่ยขายวันละตัน

“นอกจากนี้ทางกลุ่มวิสาหกิจลงนามเอ็มโอยูทำการซื้อขายล่วงหน้ากับ 5 บริษัท คือ บริษัทจากประเทศจีน เกาหลี แมคโคร ไปรษณีย์ไทย และบริษัทเอกชนของไทย ในแต่ละปีผลผลิตจะออกสู่ตลาดเฉลี่ย 1,000 ตัน ส่งออกที่ 500 ตัน อีกครึ่งหนึ่งจะขายในประเทศ สำหรับแผนต่อไป คือการขอสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI โดยได้ประสานงานไปทางมหาวิทยาลัย กระทรวงเกษตร และกระทรวงพาณิชย์ พร้อมทั้งรวบรวมข้อมูลมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองบ้านแฮด ทั้งสภาพภูมิศาสตร์ สภาพดิน ขบวนการปลูก สำหรับปีนี้ผลผลิตออกมาเป็นที่น่าพอใจเชื่อว่าตลาดส่งออกสดใสแน่นอน มูลค่าการส่งออกตั้งเป้าไว้ที่ 150-200 ล้านบาท”

Loading