ที่ห้องประชุมชั้น 2 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว ถนนกรุงเกษม กรุงเทพฯ นายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการดำเนินการรับชำระเงินส่งดอกเบี้ยตั๋วรับจำนำ ระหว่างสำนักงานธนานุเคราะห์ (สธค.) กับบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด เพื่อเพิ่มช่องทางการให้บริการ รับชำระเงินค่าดอกเบี้ยตั๋วรับจำนำจากประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป นายปรเมธี กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สำนักงานธนานุเคราะห์ หรือ สธค. ในฐานะโรงรับจำนำของรัฐที่ช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ประสบปัญหาเฉพาะหน้าด้านการเงิน เป็นการลดปัญหาการกู้เงินนอกระบบและความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ที่ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพและรายได้ของประชาชนทั่วประเทศในวงกว้าง
นายปรเมธี กล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชนที่สะดวก รวดเร็ว และมีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน กระทรวง พม. โดย สธค. จึงได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด เพื่อพัฒนาระบบการทำธุรกรรมแบบออนไลน์สำหรับลูกค้าที่มีตั๋วรับจำนำหรือบัตรประชาชน โดยนำมาชำระเงินค่าดอกเบี้ยตั๋วรับจำนำได้ที่จุดบริการ เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ ตลอด 24 ชั่วโมง และเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2563 ทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นการป้องกันตนเองจากเชื้อโรคโควิด-19 นายปรเมธี กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ สธค. ได้ขยายเวลาโครงการ สธค. โรงรับจำนำของรัฐสู้ภัยโควิด-19 สำหรับผู้มาใช้บริการจำนำใหม่ วงเงินต้นไม่เกิน 15,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 0.125 ต่อเดือน จำกัดสิทธิ์ 1 คนต่อตั๋ว 1 ใบต่อ 1 รอบการจำนำเท่านั้น ซึ่งจากเดิมถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 จะขยายเวลาออกไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 และในช่วงการเปิดภาคการศึกษาที่ใกล้จะถึงนี้ ทาง สธค. จัดโปรโมชั่น Back to School ลดดอกเบี้ย 20% สำหรับประชาชนทั่วไป และนิสิตนักศึกษาที่มาใช้บริการจำนำ วงเงินมากกว่า 15,000 บาทขึ้นไป เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึง 31 กรกฎาคม 2563