วันพฤหัสบดี, 28 พฤศจิกายน 2567

โควิด-19 : ศบค.เปิดรายชื่อกิจการ กิจกรรม “เสี่ยงสูง” ที่จะกลับมาเปิดช่วงผ่อนปรนระยะ 4 คาดเริ่ม 15 มิ.ย.

10 มิ.ย. 2020
342

ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดรายชื่อกิจการและกิจกรรมที่จะได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดบริการในช่วงมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 4 ซึ่งคาดว่าจะเริ่มในวันที่ 15 มิ.ย.นี้

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวในการแถลงข่าวประจำวันนี้ (10 มิ.ย.) ว่าที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ “ศบค.ชุดเล็ก” ได้เห็นชอบร่างมาตรการผ่อนคลายการบังคับใช้กฎหมายในระยะที่ 4 เพื่อป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งอนุญาตให้กิจกรรม/กิจการในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงกลับมาเปิดบริการหรือดำเนินการได้แต่ต้องปฏิบัติตามแนวทางการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด

ในมาตรการฉบับร่างนี้มีกิจการและกิจกรรมที่ได้รับอนุญาตให้กลับมาดำเนินการหลัก ๆ 6 กลุ่ม ได้แก่

1. โรงเรียนนานาชาติและสถาบันกวดวิชากลับมาเปิดการเรียนการสอนได้ แต่โรงเรียนภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการยังคงกำหนดเปิดเรียนวันที่ 1 ก.ค.

2. อนุญาตให้ดื่มสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในภัตตาคาร สวนอาหาร โรงแรม ร้านอาหารหรือร้านเครื่องดื่มทั่วไปได้ แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดและอยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานที่รับผิดชอบ และงดกิจกรรมการส่งเสริมการขาย ทั้งนี้สถานประกอบการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ยังคงปิดต่อไปเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดต่อของโรคเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ อย่างเช่นที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในผับบาร์ย่านทองหล่อ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่จะใช้เวลาอยู่ในสถานที่เหล่านี้นาน ขณะที่ร้านอาหารมีความเสี่ยงน้อยกว่า และหากปิดดำเนินการต่อไปจะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจในวงกว้างกว่าสถานประกอบการประเภทผับ-บาร์

3. อนุญาตให้มีการจัดประชุม อบรม สัมมนา จัดเลี้ยง งานอีเวนต์ เปิดตัวสินค้า ประกวด แข่งขันกีฬา แต่ต้องนั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร นอกจากนี้ยังอนุญาตให้จัดงานแสดงดนตรีและคอนเสิร์ตได้ แต่คนเข้าร่วมต้องไม่แออัดหนาแน่น คือ ต้องจัดให้มีพื้นที่ตามเกณฑ์ 5 ตร.ม./คน

4. สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ศูนย์เด็กเล็ก สถานรับเลี้ยงเด็กเล็กรายวัน ศูนย์การเรียนสำหรับเด็กพิเศษ และสถานดูแลผู้สูงอายุรายวันเปิดให้บริการได้

5. บริการขนส่งสาธารณะทุกประเภทให้มีการผ่อนคลายมากขึ้น เช่น ให้ผู้โดยสารนั่งติดกันได้ 2 ที่นั่ง เว้น 1 ที่นั่ง แต่ต้องจำกัดจำนวนไม่เกิน 70% ความจุผู้โดยสารตามมาตรฐาน

6. กิจกรรมและสถานที่อื่น ๆ ที่กลับมาเปิดบริการและให้ผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติม เช่น ท้องฟ้าจำลอง กิจการถ่ายภาพยนตร์และวิดีทัศน์รายการโทรทัศน์ กิจกรรมในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สนามกีฬา สระว่ายน้ำ สวนน้ำ สวนสนุก (ยกเว้นบ้านบอล) สปา (แต่อาบอบนวดยังไม่เปิดให้บริการ)

“นี่เป็นเพียงฉบับร่าง อาจจะมีการปรับเปลี่ยน ยกเลิก หรือ เพิ่มเติม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ที่จะมีขึ้นในวันศุกร์นี้ (12 มิ.ย.)” โฆษกศบค.กล่าว

นพ.ทวีศิลป์กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กในวันนี้ ยังไม่มีการพูดคุยเรื่องการทดลองยกเลิกเคอร์ฟิว ตามที่มีสื่อมวลชนบางส่วนรายงาน

สำหรับประเด็นการเปิดต้อนรับชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ มีการพิจารณาหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้น มีแนวความคิดแบบ “Travel Bubble” ซึ่งจะพิจารณาให้กลุ่มที่มี work permit เข้ามาในประเทศอย่างปลอดภัย แต่ต้องมีการพิจารณาทั้งด้านลบและบวกให้ถ้วนถี่ก่อนการตัดสินใจ

พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 4 ราย

นพ.ทวีศิลป์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศว่า ในวันนี้พบผู้ป่วยรายใหม่ 4 ราย ทั้งหมดเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและอยู่ในศูนย์กักกันโรคที่รัฐจัดให้

ผู้ป่วยรายใหม่ 4 ราย ได้แก่

รายที่ 1 เดินทางมาจากมาดากัสการ์ เป็นชายไทยอายุ 44 ปี อาชีพเป็นพนักงานบริษัทและพักในแคมป์ที่มีคนหลายเชื้อชาติเดินทางมาถึงไทยวันที่ 3 มิ.ย.และเข้าพักที่ศูนย์กักกันโรคในกรุงเทพฯ

รายที่ 2 เดินทางมาจากปากีสถาน เป็นหญิงอายุ 34 ปี สามีเป็นชาวปากีสถาน มีสมาชิกในครอบครัวป่วยถึง 5 คน รวมทั้งสามีของเธอด้วย เดินทางมาถึงไทยวันที่ 6 มิ.ย. และเข้าพักที่ศูนย์กักของรัฐในกรุงเทพฯ

รายที่ 3 และ 4 เดินทางมาจากอินเดีย ทั้งคู่เป็นหญิงอายุ 35 ปี โดยหนึ่งรายมีอาชีพเป็นพนักงานร้านนวดเดินทางมาถึงไทย วันที่ 4 มิ.ย. เข้าพักที่ศูนย์กักกันโรคใน จ.ชลบุรี

จนถึงขณะนี้ ไทยมีผู้ป่วยสะสมรวม 3,125 ราย รักษาหายแล้ว 2,981 ราย และยังมีผู้ที่ยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่ 86 ราย มีผู้เสียชีวิต 58 ราย

Loading