ทม.พล ขานรับนโยบาย บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ ส่งชุดเคลื่อนที่เร็วรับขึ้นทะเบียนหมอพร้อม พร้อมแนะสิทธิ์การรักษาและวิธีการใช้งาน มั่นใจ 2 สัปดาห์แล้วเสร็จพร้อมให้บริการทันที
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 26 เม.ย.2567 ที่ห้องประชุมเทศบาลเมืองเมืองพล อ.พล จ.ขอนแก่น นายกิตติโชติ เตรียมเวชวุฒิไกร นายกเทศมนตรีเมืองเมืองพล พร้อมด้วย นพ.ประวีร์ คำศรีสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพล และนายบุญถม ชัยญวน สาธารณสุขอำเภอพล ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ขับเคลื่อนนโยบายดิจิตอลสุขภาพ “30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” เพื่อกำหนดแผนการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล เนื่อจากขณะนี้เข้าสู่การดำเนินงานในระยะที่ 2 ครอบคลุมแล้วในหลายจังหวัด
นายกิตติโชติ เตรียมเวชวุฒิไกร นายกเทศมนตรีเมืองเมืองพล กล่าวว่า การทำงานร่วมกันระหว่างเทศบาลฯ,รพ.พล และ สาธารณสุข อ.พล เป็นแนวทางที่ชัดเจนและทำทันทีเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ อ.พล นั้นเข้าถึงการบริการด้านสาธารณสุข ซึ่งรัฐบาลเร่งดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพของระบบสาธารณสุขให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ลดแออัด ลดการรอคอย สามารถจองคิวออนไลน์ ลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มการเข้าถึงบริการของประชาชน และลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ เข้าถึงบริการสาธารณสุขได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น
“ ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเทศบาลฯจะส่งเจ้าหน้าที่รับขึ้นทะเบียนหมอพร้อม DID โดยเริ่มจากกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง,ผู้สูงอายุ.คนพิการและผู้ยากไร้ จากนั้นก็จะเข้าสู่การดำเนินงานครอบคลุมทุกเพศ ทุกวัย เพื่อให้คนเมืองพล และทุกคนที่อาศัยอยู่ในเขต อ.พล นั้นเพียงแค่ใช้บัตรประชาชนใบเดียวก็จะสามารถรับบริการสาธารณสุขได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลของรัฐ โรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วม คลินิกเอกชน ร้านยา คลินิกเทคนิคการแพทย์ คลินิกการพยาบาล คลินิกกายภาพบำบัด คลินิกทันตกรรมที่อยู่ใกล้บ้านและเข้าร่วมในระบบกับ สปสช.ได้ทั้งหมด”
นายกิตติโชติ กล่าวต่ออีกว่า การขึ้นทะเบียนหมอพร้อม DID จะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งในการขึ้นทะเบียนนั้นเจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำและสอนวิธีใช้ระบบการดำเนินงานเพื่อลดขั้นตอนการรักษาโดยเฉพาะกับการจองคิวรักษา หรือการพบแพทย์ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งจะลดขั้นตอนต่างๆได้อย่างมาก อย่างไรก็ตามการดำเนินงานของรัฐบาลตามนโยบายดังกล่าวเป็นสิ่งที่ถูกต้องและประชาชนนั้นรอคอยมาโดยตลอดเพื่อให้เข้าถึงสิทธิการรักษาอย่างควบคุมและทั่วถึงและรักษาที่ใดก็ได้ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว โดยใรฐานข้อมูลทีเชื่อมโยงกันระหว่าง โรงพยาบาลกับโรงพยาบาล รวมทั้งหน่วยงานด้านสาธารณสุข อย่างไรก็ตามการดำเนินงานร่วมระหว่าง 3 หน่วยงานจากนี้ไป จะลงพื้นที่ทันทีหลังการอบรมการใช้ระบบดังกล่าวแล้วเสร็จ เพื่อให้ทุกได้ ยืนยันตัวตน และการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างเครือข่ายหน่วยบริการ จนนำไปสู่เข้าถึงการให้บริการแก่ประชาชนซึ่งในขั้นตอนของการขึ้นทะเบียนนั้นไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น