ตร.ภ.4 เปิดพื้นที่ทุกโรงพักเป็นจุดจอดรถ-ศูนย์อพยพฯหรือตั้งโรงครัว พร้อมส่งชุดเคลื่อที่เร็วให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมครอบคลุมทุกพื้นที่ ทั้งยังจัดสายตรวจทางน้ำเฝ้าระวังทรัพย์สินของประชาชน เตือนมิจฉาชีพแอบฉวยโอกาสจับติดคุกทันที
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 15 ก.ย.2567 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี รอง ผบช.ภ.4 ในฐานะ โฆษก ตร.ภ.4 เปิดเผยว่า บช.ภ.4 ได้สั่งการให้ทุกโรงพักในสังกัด ทั้ง 12 จังหวัด ภาคอีสานตอนบน เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอ ที่ติดกับแม่น้ำโขงที่ขณะนี้ระดับน้ำได้เอ่อเข้าท่วมแล้วใหลายพื้นที่ซึ่ง ตำรวจทุกโรงพักได้เข้าให้การช่วยเหลือประชาชน ด้วยการสธิกำลังร่วมกับฝ่ายปกครอง,ทหารและหน่วยงานต่างๆ ในการอพยพประชาชนออกมจากพื้นที่เสี่ยง หรือการเร่งทำพะนังกั้นน้ำในจุดเสี่ยงและที่สำคัญคือการจัดการจราจร ในจุดที่เกิดน้ำท่วม หากจำเป็นต้องปิดถนนและกำหนดเส้นทางเบี่ยง ทางลัดต่างๆตำรวจจะต้องอำนวยความสะดวกและจัดการจราจรตามแผนที่กำหนดไว้โดยทันที
“ ผบช.ภ.4 พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ได้ย้ำชัดในข้อสั่งการในเรื่องของการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัยอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะ กลุ่มจังหวัดที่ติดกับแม่น้ำโขง รวมทั้งกลุ่มจังหวัดจุดเสี่ยงทุกจุด ที่ต้องติดตามสถานการณ์และรายงานเหตุการณ์มาที่ บช.ภ.4 เพื่อร่วมบัญชาการเหตุการณ์หรือการจัดส่งกำลังและยุทโธปกรณืในการให้ความช่วยเหลือประชาชนเข้าไปในพื้นที่ทันที ขณะเดียวกันยังคงให้พื้นที่โรงพักทุกแห่งเป็นพื้นที่ปลอดภัย ในการจอดรถของผู้ที่ประสบภัย หรือการใช้อาคารหอประชุม หรืออาคารเอนกประสงค์เป็นสถานที่อพยพของผู้ประสบภัยหากมีการร้องขอจากทางอำเภอหรือชุมชน โดย ผกก.ฯสามารถที่จะพิจารณาจัดตั้งเป็นศูนย์อพยพ หรือแม้กระทั่งตั้งโรงครัวช่วยเหลือประชาชนก็สามารถที่จะทำได้โดยทันที”
โฆษก ตร.ภ.4 กล่าวต่ออีกว่า ในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ได้มีการจัดชุดสายตรวจทางน้ำและชุดเคลื่อนที่เร็ว เข้าตรวจตราบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่ที่ประสบน้ำท่วม ซึ่งพบว่าบางครอบครัวได้มาพักที่จุดอพยพ ขณะที่บางครอบครัวส่งตัวแทนเฝ้าบ้านเรือนไว้เพื่อความปลอดภัย ดังนั้นทุกพื้นที่จะต้องเพิ่มความเข้มงวดตรวจตราพื้นที่ ซึ่งหากตรวจพบกลุ่มมิจฉาชีพฉวยโอกาสก่อเหตุลักทรัพย์หรือกระทำการใดที่ผิดกฎหมายซ้ำเติมผู้ประสบภัยตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดทันที