
มทร.อีสานวิทยาเขตขอนแก่น ยืนยันรถไฟฟ้า-ระบบราง พร้อมทดสอบวิ่ง มิ.ย.ปีนี้ เล็งขยายต่อยอดรถไฟชมเมืองรอบบึงแก่นนคร ยืนยันมาตรฐานฝีมือคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 12 มี.ค.2568 ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น นายปริญ นาชัยสิทธิ์ อดีตรองอธิการบดีฯประจำวิทยาเขตขอนแก่น และที่ปรึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าในการก่อสร้างระบบรางรถไฟฟ้าภายใน มทร.อีสานวิทยาเขตขอนแก่น เพื่อเตรียมการทดสอบระบบขบวนรถไฟฟ้า LRT และระบบรางรถไฟ ซึ่งคิดค้นและจัทดำขึ้นด้วยทีมนักวิจัยของประเทศไทย โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการวางระบบรางในระยะทางรวมกว่า 400 เมตร


นายปริญ นาชัยสิทธิ์ อดีตรองอธิการบดีฯประจำวิทยาเขตขอนแก่น และที่ปรึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ กล่าวว่า โครงการวิจัยระบบรางของ มหาวิทยาลัยฯ แยกออกเป็น 3 ส่วน เริ่มจากการวิจัยขบวนรถไฟฟ้า LRT ซึ่งเราได้เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้จนได้รับความเสียหาย แต่ทีมงานนักวิจัยของมหาวิทยาลัยฯและนักศึกษาได้ช่วยกันทำการวิจัยให้ขบวนรถไฟฟ้าดังกล่าวนั้นกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ซึ่งถือเป็นขบวนใหม่รวม 3 โบกี้ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งระบบในเดือน พ.ค.2568 เช่นเดียวกันกับแผนงานต่อเนื่องกับขบวนรถไฟฟ้า คือการจัดวางระบบราง รถไฟในมหาวิทยาลัย ซึ่งได้รับการอนุมัติงบประมาณจากสภามหาวิทยาลัยฯ วางรางรถไฟฟ้าระยะทางรวมกว่า 400 เมตร ด้วยความกว้าง 1.435 เมตร ด้วยงบประมาณรวมประมาณ 7 ล้านบาท ซึ่งเป็นการวางระบบรางที่จะใช้ในการทดสอบขบวนรถไฟฟ้า LRT ที่ทำการจัดสร้างพร้อมกันอยู่ในขณะนี้ ซึ่งช่วนเวลาในการวางรางนั้นจะเสร็จในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งคาดว่าจะเปิดใช้งานและทดสอบระบบได้พร้อมกันในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นช่วงของการเปิดภาคเรียในปีการศึกษา 2568 ของมหาวิทยาลัยฯพอดี


“แต่ถึงอย่างไรในการทดสอบขบวนรถไฟนั้นจะต้องใช้ความยาวมากกว่านี้ซึ่งมหาวิทยาลัยฯได้เสนอโครงการแบบต่อเนื่อง กับกระทรวง อว.เพื่อขอรับการสนับสนุนทุนวิจัย เป็นโครงการรถไฟรอบบึงแก่นนคร วงใน ซึ่งมีระยะทาง 4 กม.เพื่อใช้ในการทดสอบตามมาตรฐานของรถไฟฟ้าที่เป็นสากลทั้งระบบ ที่เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมและใช้ในระบบการจัดการเรียนการสอน การซ่อมบำรุงขบวนรถและระบบราง รวมทั้งอาณัติสัญญาณ ต่างๆ ทั้งยังคงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการขนส่งระบบรางว่าสามารถที่จะเชื่อมโยงกับภาคของการท่องเที่ยว การพัฒนาระบบขนส่งมวลชน การแสดงให้เห็นถึงความเป็นเมืองอัจฉริยะ หรือสมาร์ทซิตี้ การเป็นเมืองคาร์บอนต่ำ ที่สำคัญคือการพัฒนาเมืองด้านเศรษฐกิจให้กับชุมชนโดยรอบ”


นายปริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้จะเห็นได้ว่ามหาวิทยาลัยหลายแห่งมีการเปิดหลักสูตรและจัดการเรียนการสอนในระบบราง เพื่อรองรับกับการพัฒนาที่เกิดข้นทั้งในเรื่องของรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ที่กำลังเป็นที่สนใจ,โครงการรถไฟทางคู่ของ รฟท.และโครงการรถไฟฟ้าในเมือง หรือแม้กระทั่งโครงการรถไฟฟ้าเชื่อมต่อ 3 สนามบิน ซึ่งทุกโครงการมีความต้องการในด้านของกำลังคนที่สูงมาก จึงเป็นสิ่งที่ทุกมหาวิทยาลัยได้มีการนำเรื่องระบบรางในภาค่วนต่างๆมาจัดการเรียนการสอน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของบุคลากรที่เรามีการเตรียมการกันแล้ว ลำดับต่อมาคือเรื่องของเทคโนโลยี ที่เป็นการสร้างนวัตกรรมให้กับรถไฟ ซึ่งชัดเจนที่สุด คือ มทร.อีสานวิทยาเขตขอนแก่น โดยเฉพาะคณะวิศวกรรมศาสตร์ของเรานั้น สามารถร้างรถไฟฟ้า LRT ได้และเมื่อเกิดปัญหาก็สามารถที่จะพัฒนาและต่อยอดรถไฟฟ้าขบวนนี้ไปได้และที่สำคัญคือนอกจากรถไฟฟ้าที่ใช้พลังานไฟฟ้า 100% จากฝีมือคนไทยแล้วก้าวต่อไปคือการสร้างขบวนรถไฟที่ใช้พลังงานไฮโดรเจน เรียกได้ว่าเป็นโครงการแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ทีมงานนักวิจัยไทยกำลังจะสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกัน



















