พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ประธานกรรมาธิการท่องเที่ยววุฒิสภา มองว่า การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นอุตสาหกรรมที่มีอนาคต การพัฒนาด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจึงควรมองในภาพรวมของผลิตภัณฑ์และการบริการด้านการท่องเที่ยวอย่างครบวงจร และนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เข้ามา สนับสนุนการดำเนินงาน เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกได้ง่ายขึ้น อาทิ การสร้างแพลตฟอร์มเชิงสุขภาพที่มิได้มุ่งเน้นเพียงด้านบริการทางการแพทย์เท่านั้น แต่อาจเพิ่มแอปพลิเคชั่นแนะนำการท่องเที่ยวในประเทศไทย การวางแผนค่าใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยว ตลอดจนถึงแผนการท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นที่นิยมและเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย นอกจากนี้ยังสามารถรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามารับบริการด้านสุขภาพในรูปแบบของครอบครัวได้อีกด้วยนางศรีสุด วนภญิโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยโรป แอฟริกาตะวันออก และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้สรุปตัวเลขการท่องเที่ยวปี 2562 ว่ามีนักท่องเที่ยวถึง 40 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศถึง 1.9 ล้านล้านบาท ในส่วนของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมีการสำรวจเมื่อปี 2561 พบว่า มีรายได้ประเทศถึง 45,000 ล้านบาท ก่อนเกิดวิกฤตโควิด นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
ด้านแพทย์หญิงประภา วงศแพทย์ นายกสมาคมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพไทย (TMTA) เสนอให้รัฐบาลเพิ่มการสนับสนุนการท่องเที่ยวรูปแบบโปรแกรมทัวร์สุขภาพ จะทำให้เกิด การจับคู่ธุรกิจต่างๆ โดยมีโรงแรม/รีสอร์ตจับคู่กับโรงพยาบาล/คลินิก สปา แพทย์แผนไทย/แพทย์ทางเลือก และ ผู้ให้บริการอื่น ฯลฯ ทั้งนี้จะเป็นอีกช่องทางที่จะสามารถช่วยกระตุ้นรายได้ในช่วงเวลาที่ยังไม่สามารถเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ตามปกติและยังมีประโยชน์ต่อประชาชนในการดูแลสุขภาพและสอดคล้อง กับสังคมผู้สูงอายุในปัจจุบันด้วย