คอบช. ส่งจดหมายเปิดผนึก ถึง ‘กสทช.’ และ ‘ผู้ให้บริการโทรคมนาคม’ ขอลดค่าบริการ 30% และไม่ระงับการใช้งานหากผู้ใช้บริการไม่สามารถจ่ายได้ภายใน 2 เดือน หวังช่วยประชาชนช่วงโควิด-19/ เว็บไซต์มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค รายงานว่า คณะอนุกรรมการด้านสือและโทรคมนาคม องค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน (คอบช.) ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยมีข้อเสนอว่า กสทช. ควรดำเนินการในฐานะองค์กรกำกับดูแลโดยตรงเพื่อขอความร่วมจากภาคเอกชนให้ประกาศมาตรการร่วมกันที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมในการช่วยเหลือผู้บริโภคในภาวะวิกฤตินี้ โดยไม่เลือกปฏิบัติ เน้นความทั่วถึง เท่าเทียม และ ไม่ทิ้งประชาชนกลุ่มที่ลำบากไว้ข้างหลัง คนไทยทุกคนจะต้องเข้าถึงการสื่อสารขั้นพื้นฐานในภาวะวิกฤติระดับชาติเช่นนี้
นอกจากนั้นขอให้ กสทช. ทบทวนแนวทางที่จะสนับสนุนงบประมาณในการซื้ออินเทอร์เน็ตเพิ่มจากผู้ประกอบการให้ประชาชน เพราะเข้าข่ายเป็นการใช้เงินงบประมาณของสาธารณะในห้วงเวลาที่ประเทศไทยประสบปัญหาด้านการเงิน ดังนั้น ควรเก็บงบประมาณของกองทุน กทปส. ไว้ใช้ในภารกิจที่จำเป็นจริงๆ ไม่เช่นนั้นอาจถูกมองว่าเป็นการแปรวิกฤติเป็นโอกาสให้เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มธุรกิจรายใหญ่ซึ่งให้คลื่นความถี่อันเป็นทรัพยากรของสาธารณและมีผลกำไรอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในภาวะปัจจุบันที่ความต้องการอินเทอร์เน็ตของประเทศเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ คอบช.ขอเรียกร้องให้ผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคม รับฟังความคิดเห็นของผู้บริโภค และ พร้อมใจกันช่วยเหลือประชาชนในยามทุกข์ยากเช่นนี้ ตามข้อเสนอ ดังนี้
1. ขอให้ผู้ประกอบการฯ ลดราคาเป็นการทั่วไป 30% ซึ่งทาง กสทช.ได้ปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมเลขหมายโทรศัพท์ ให้เป็นอัตราเดียว (Single Rate) 1.50 บาทต่อเลขหมายแล้ว
2. หากผู้บริโภคที่มีปัญหาไม่สามารถจ่ายค่าบริการเลขหมายได้ภายใน 2 เดือน ประกอบการฯ ต้องไม่ระงับการใช้งาน
3. ถ้าไม่มีการดำเนินการใดๆ จาก กสทช. และผู้ประกอบการฯ ขอให้ผู้บริโภคทุกคน ร่วมมือกัน ไปลดราคาแพคเกจ ให้ราคาต่ำสุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยความหวังว่าเสียงของประชาชนผู้บริโภคที่สนับสนุนกิจการโทรคมนาคมมาโดยตลอดจะได้รับการพิจารณาจาก กสทช. และ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด