ขอนแก่น พร้อมเปิดเรียนเทอม 2 กำชับสถาบันการศึกษาวางระบบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ขณะที่การแข่งขันไทยลีค 2 และ 3 ยื่นขออนุญาตจัดการแข่งขันแบบนิวนอมอล ผู้ว่าฯ ย้ำชัดเมืองต้องเดินหน้าทั้งภาคเศรษฐกิจและด้านสาธารณสุข มั่นใจทุกฝ่ายเดินหน้าไปด้วยกัน
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 2 ก.ย.2564 ที่สำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น,นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น,นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น และ นพ.ไพบูลย์ ปิยะบัณฑิลกุล ผอ.รพ.ขอนแก่น ราม ประชุมร่วมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ขอนแก่น ครั้งที่ 33 เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ที่ประชุมได้หารือว่าด้วยการผ่อนคลายตามมาตรการที่ ศบค.และรัฐบาลได้กำหนดรอบแนวทาง ไว้หลังสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่ลดลง ทำให้การประชุมวันนี้เป็นการเตรียมการที่จะผ่อนคลายในมาตรการและข้อห้ามต่างๆตามประกาศเดิมที่จังหวัดกำหนดโดยเฉพาะสถานศึกษาที่มติที่ประชุมมีการพิจารณาทบทวนการเปิดภาคเรียนในภาคเรียนที่ 2 ประจำปีการศึกษา 2564 โดยให้สถาบันการศึกษาทุกแห่งและทุกสังกัด ได้พิจารณการเปิดภาคเรียนแบบนิวนอมอล ตามมาตรการและมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด โดยให้อำนาจของผู้บริหารสถานศึกษาหรือหน่วยงานต้นสังกัดได้พิจารณาการเปิดการเรียนการสอนของสถาบันการศึกษาแต่ละแห่งละแต่ละประเภท ที่ทุกแห่งต้องคุมเข้มความปลอดภัยตามมาตรฐานสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
” ขณะเดียวกันที่ปีะชุม ยังมีมติในการพิจารณมให้มีการจัดการแข่งขันไทยลีค 2 และ ไทยลีค 3 ภายหลังจากที่ช่วงที่ผ่านมาได้มีการอนุฯาตให้มีการจัดการแข่งขันไทยลีค 1 ไปแล้ว โดยให้สโมสรฟุตบอลที่จะทำการแข่งขันได้เสนอแผนและรายละเอียดต่างๆตามมาตราการที่กระทรวงสาธารณสุขและสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยกำหนด รวมไปถึงการมอบหมายให้จังหวัดเร่งจัดการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นทีที่ยังไม่มีการเลือกตั้งเพื่อห้การทำงานได้ดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการจัดกิจกรรมประเภทต่างๆและขนาดต่างๆ ที่สามารถจัดการประชุม สัมมนา หรือจัดกิจกรรมต่างๆได้ แต่ต้องขออนุญาตเป็นกรณี โดยให้อำนาจนายอำเภอและคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่ออำเภอ ทำการพิจารณาภายใต้มาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด”
ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ด่านตรวจโรคที่ท่าอากาศยาน จ.ขอนแก่น จะมีการส่งเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคจากสำนักงานควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่นไปประจำที่จุดดังกล่าวเพื่อประสานการทำงานร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานและสายการบิน ในการคุมเข้มบุคคลเข้าออกจังหวัดตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด คู่ขนานกับสถานีขนส่งทุกแห่งที่กำลังเจ้าหน้าที่จะตรวจเข้มการเดินทางอย่างเข้มงวดต่อไป อย่างไรก็ตามสำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ขณะนี้พบว่าในกลุ่มพื้นที่ อำเภอขนาดเล็ก พบว่ากลุ่มเป้าหมาย 608 คือกลุ่มผู้สูงอายุ ที่มีอายุ ตั้งแต่ ุ60 ปี ขึ้นไป กลุ่มผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค และ กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป อ.เปือยน้อย กลุ่มเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนแล้วมากถึงร้อยละ 60 รองลงมาคือที่ อ.เวียงเก่า ขณะที่กลุ่มอำเภอขนาดไหน อันดับ 1 คือ อ.พล ที่ประชากรกลุ่มเป้าหมายได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วกว้าร้อยละ 50 ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของทุกฝ่ายที่น่าชื่นชม ดังนั้นในระยะเวลาที่เหลือกลุ่มเป้าหมายที่จะต้องได้รับวัคซีนร้อยละ 70 ภายในเดือน ก.ย.นี้นั้นทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนงานที่กำหนด จากนั้นก็จะเข้าสู่แผนงานฉีดวัคซีนให้กับบุคคลทั่วไปตามที่รัฐบาล และ ศบค.กำหนดไว้ทันที
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797