จ.ขอนแก่นผนึกกำลังรัฐและเอกชนรวม 15 องค์กรลงนามบันทึกความเข้าใจขับเคลื่อนอารยสถาปัตย์ การท่องเที่ยวและไมซ์ เตรียมเมืองพร้อมรับการท่องเที่ยวและไมซ์เพื่อคนทั้งมวล ทีเส็บ ชู!ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า ส่งเสริมทุกกลุ่มจัดกิจกรรมในประเทศ
เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 ชั้น 4 ห้องศาลาไทย โรงแรมพูลแมนขอนแก่นนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานงานคิกออฟ และบันทึกข้อตกลง จังหวัดขอนแก่น ผนึกกำลังภาครัฐและเอกชนรวม 15 องค์กรลงนามบันทึกความเข้าใจขับเคลื่อนอารยสถาปัตย์ การท่องเที่ยวและไมซ์เพื่อคนทั้งมวล จังหวัดขอนแก่น (Friendly Design, Tourism and MICE for All in Khon Kaen) โดยมี ว่าที่ ร.อ.พงเจตน์ พรกรุณา ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น รายงาน ในงานมีนายศรัทธา คชพลายุกต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น,นายธาดา พรหมสาขา ณ สกลนคร,นายประสิทธิ์ ทองแท่งไทย รองนายก อบจ.ขอนแก่น,นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น,นายกฤษนะ ละไล ประธานมูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล ,น.ส.สุรัชสานุ์ ทองมี ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ,นายภพพล เกษมสันต์ ณ อยุธยา ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่น ,นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น ,พ.ต.ท.ธนภูมิ มีสมศักดิ์ สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น,นายวิรัช นาคนชม ผู้อำนวยการสำนักกองช่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น, นายชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์ นายกสมาคม โรงแรมภาคอีสาน ,ดร.สุรสิทธิ์ สิงห์หลง ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดขอนแก่น ,นางธนวัน กาสี ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานขอนแก่น ,หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ร่วมงาน
เพื่อเตรียมเมืองให้พร้อมรับนักท่องเที่ยวและนักเดินทางไมซ์ทุกกลุ่มทุกวัยทุกสภาพร่างกาย อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย ทีเส็บรับลูกชูโครงการประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่าส่งเสริมให้คนทุกกลุ่มจัดประชุม สัมมนา และนิทรรศการภายใต้แนวทาง ISAN MICE FOR ALL
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ภายใต้เป้าหมายหลักของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ร่างฉบับที่ 13 คือ การมุ่งสู่สังคมแห่งโอกาสและความเป็นธรรม โดยลดความเหลื่อมล้ำทั้งในเชิงพื้นที่และโอกาสในการแข่งขันของภาคธุรกิจ รวมถึงสนับสนุนช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางและผู้ด้อยโอกาส ดังนั้นการส่งเสริมให้จังหวัดขอนแก่นมีความพร้อมด้านการขับเคลื่อนอารยสถาปัตย์ การท่องเที่ยวและไมซ์เพื่อคนทั้งมวล จึงเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องร่วมผนึกกำลังกันทั้งภาครัฐและเอกชน
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่าการลงนามบันทึกความเข้าใจของเหล่าภาคีในครั้งนี้จึงถือเป็นการเดินหน้าร่วมกันอย่างเข้มแข็งเพื่อส่งเสริมให้จังหวัดขอนแก่นเป็นเมืองที่มีความพร้อมทั้งด้านการท่องเที่ยวและไมซ์ สามารถรองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มวัย ทุกสภาพร่างกาย (Tourism for All) ให้คนทุกกลุ่มสามารถเดินทางท่องเที่ยวและประชุมในสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย อาคารสถานที่ภายในแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนที่พัก ร้านอาหารและบริการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการคมนาคมขนส่งในจังหวัดที่มีการจัดอารยสถาปัตย์ (Friendly Design) หรือสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและคนทั้งมวลที่ได้มาตรฐานสากล”
ด้าน นายธาดา พรหมสาขา ณ สกลนคร รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เล็งเห็นถึงการให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนทุกกลุ่ม ได้มีการจัดสัมมนาและอบรมเชิงปฏิบัติการการออกแบบสถาปัตยกรรมเพื่อคนทั้งมวลมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้ได้ขยายขอบเขตการให้ความรู้ไปสู่ด้านการท่องเที่ยวและไมซ์ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เพราะเมื่อมีการเปิดเมืองเพื่อรองรับนักเดินทาง กิจกรรมด้านการท่องเที่ยวและไมซ์ อาทิ การจัดประชุม สัมมนา จะเป็นกิจกรรมสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัด และจากบันทึกความเข้าใจที่ได้ลงนามร่วมกันเป็นระยะเวลา 3 ปีนี้ มั่นใจว่าจะทำให้ขอนแก่นเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทางทุกกลุ่มวัยและทุกสภาพร่างกายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่อไป
ส่วนนายกฤษนะ ละไล ประธานมูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล กล่าวว่า การที่จังหวัดขอนแก่นมีเป้าหมายในการพัฒนาเมืองโดยให้ความสำคัญกับเรื่องอารยสถาปัตย์ถือเป็นขับเคลื่อนเมืองในระดับสากล เพราะความเสมอภาคและเท่าเทียมของทุกคนในสังคมนั้นเป็นหลักการพื้นฐานที่ทุกประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญ และยังเป็นหนึ่งในเป้าหมายสากลว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
นายกฤษนะ กล่าวด้วยว่าการลงนามบันทึกความเข้าใจกับภาคีเครือข่ายที่ขอนแก่นครั้งนี้ นับเป็นจังหวัดที่ 16 ที่ได้มีการผนึกกำลังกันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนในการเดินหน้าขับเคลื่อนและพัฒนาจังหวัดทางด้านอารยสถาปัตย์ ซึ่งจะส่งเสริมให้ผู้คนทุกกลุ่มที่เดินทางมาขอนแก่นไม่ว่าจะมาเพื่อการท่องเที่ยวหรือเพื่อจัดกิจกรรมไมซ์ จะได้รับความสะดวกสบาย ปลอดภัย สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเสมอภาคเท่าเทียม เพราะอารยสถาปัตย์ไม่ใช่แค่ออกแบบมาอำนวยความสะดวกให้เฉพาะผู้พิการ แต่ยังมีประโยชน์เพื่อคนทั้งมวล ไม่ว่า ผู้สูงอายุ เด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บ และมนุษย์ล้อ เป็นต้น
ขณะเดียวกัน
น.ส.สุรัชสานุ์ ทองมี ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า ทีเส็บมีแคมเปญสำคัญสำหรับการจัดกิจกรรมไมซ์ของผู้คนทุกกลุ่มอย่าง ISAN MICE FOR ALL โดยเป็นการส่งเสริมสถานที่จัดงานไมซ์ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ประชุม โรงแรม ร้านอาหาร ที่พัก ให้มีมาตรฐานการออกแบบที่เป็นมิตรกับคนทั้งมวล เพื่อรองรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ที่เป็นกลุ่มพิเศษ ทุกสภาพร่างกายสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย สามารถต้อนรับนักธุรกิจ นักเดินทางกลุ่มไมซ์ที่มาจากหลายหลากพื้นที่ และหลากหลายสถานะ
น.ส.สุรัชสานุ์ กล่าวอีกว่าการลงนามบันทึกความเข้าใจการขับเคลื่อนอารยสถาปัตย์ การท่องเที่ยวและไมซ์เพื่อคนทั้งมวลในวันนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญให้ทุกคนได้รับรู้ร่วมกันว่าจังหวัดขอนแก่นเป็นจังหวัดที่เหมาะกับการจัดกิจกรรมไมซ์สำหรับผู้คนทุกกลุ่ม และหากเป็นการจัดงานที่มีผู้เข้าร่วม 30 คนขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็น ประชุม สัมมนา ท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การอบรม กิจกรรมเพื่อสังคม Outing ศึกษาดูงาน หรือกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งเหล่านี้ในชุมชน ยังสามารถขอรับการสนับสนุนงบประมาณ 15,000 บาท หรือ 30,000 บาท ภายใต้ “โครงการประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” ซึ่งเป็นเครื่องมือการตลาดสำคัญทีเส็บได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2563 เพื่อช่วยลดผลกระทบกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมไมซ์จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ได้ด้วย
ส่วน นายภพพล เกษมสันต์ ณ อยุธยา ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า นอกเหนือจุดขายสำคัญของขอนแก่นในด้านการเป็นเมืองแห่งมัดหมี่โลกที่จะกระตุ้นให้ที่นักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเที่ยวมากขึ้นควบคู่กับการประชุม สัมมนาและจัดนิทรรศการแล้ว การเป็นเมืองที่ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะด้านอารยสถาปัตย์ยังเป็นอีกหนึ่งจุดขายที่จะทำให้นักเดินทางให้ความสนใจ เพราะไม่ต้องกังวลด้านคุณภาพชีวิตเมื่อเดินทางมาที่นี่ โดยสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเองจะร่วมผนึกกำลังอย่างเต็มที่ และสร้างการรับรู้ไปยังสมาชิกเพื่อให้ทราบและมีแนวทางปฏิบัติร่วมกัน
นายภพพล กล่าวเพิ่มเติมว่าสำหรับการลงนามบันทึกความเข้าใจครั้งนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและไมซ์ของจังหวัดขอนแก่นให้ก้าวไปข้างหน้า ประกาศจุดยืนและสร้างจุดเด่นสู่การเป็นขอนแก่นไมซ์ซิตี้เพื่อคนทั้งมวล (Khon Kaen MICE City for All) ภายใต้ Branding “Possible Khon Kaen : ทุกอย่างเป็นจริง ทุกสิ่งเป็นได้ ที่ขอนแก่น
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797