ขอนแก่นมั่นใจสัปดาห์หน้าระดับน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์เหลือในระดับกักเก็บ 100 % เตรียมปรับแผนบริหารจัดการน้ำรับหน้าแล้งเพื่อให้ชาวขอนแก่นมีน้ำกิน-น้ำใช้ ตลอดทั้งปี พร้อมเร่งสูบน้ำออกจากนาข้าวลงสู่แม่น้ำชี เพื่อให้เกษตรกรเกี่ยวข้าวนาปีได้ตามฤดูกาลผลิต พร้อมอนุมัติให้เกษตรกรทำนาปรังแบบต่อเนื่องได้โดยทันที
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 12 พ.ย.2564 ที่ประตูระบายน้ำ D10 (ปากประแส) ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายพงศ์ธร พิศาพิทักษ์กุล นายกเทศมนตรี ต.พระลับ นำเจ้าหน้าที่กรมชลประทน,ปภ.ขอนแก่น และ เทศบาล ต.พรลับ เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ระยะไกล เพื่อเร่งสูบน้ำที่ค้างทุ่งและท่วมพื้นที่ทางการเกษตรของเกษตรกรในเขต ต.พระลับ ให้ไหลลงสู่แม่น้ำชีให้เร็วที่สุด ตามแผนบริหารจัดการน้ำที่ทางจังหวัดได้กำหนดไว้ เนื่องจากขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำชีเริ่มทรงตัว และลดระดับลงในหลายจุด ตามการบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทาน โดยมีเกษตรกรในพื้นที่เตรียมรถเกี่ยวข้าวและสถานที่สำหรับการตากข้าวและเก็บรักษาข้าวไว้อย่างพร้อมเพรียงเพื่อที่จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปีได้ทันทีหลังน้ำลด
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า พื้นที่ ต.พระลับ อ.เมืองขอนแก่น เป็นพื้นที่ที่กับแม่น้ำชี โดยขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำชี ยังคงสูงอยู่แต่ก็ลดลงอย่างมาก ตามแผนการบริหารจัดการน้ำ ขณะที่ กรมชลประทานและ ปภ.ขอนแก่น ประสานงานร่วมกับเทศบาลฯ ติดตั้ง เครื่องสูบน้ำในพื้นที่ตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา เพื่อดันน้ำและผลักดันน้ำไม่ให้ไหลท่วมพื้นที่ ซึ่งจัดเป็นยุทธวิธีที่ประสบผลสำเร็จในการปกป้องที่นาในพื้นที่ที่มีอยู่กว่า 8,000 ไร่ และจากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่บริเวณปลูกข้าวของเกษตรกรพระลับ จะอยู่ที่ประมาณ 900 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งหากนับรวมพื้นที่นาข้าวของตำบลจะพบว่าผลผลิตของชาวพระลับจะมีมูลค่า กว่า 50.4 ล้านบาท
“แต่การลงทุนในการป้องกันของเทศบาลนั้น ใช้วงเงินงบประมาณปีละไม่เกิน 2 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นแผนงานที่ประสบผลสำเร็จและทำได้จริงด้วยการสื่อสารระหว่างเทศบาลกับประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จนทำให้เกิดความร่วมมือร่วมใจกันระหว่างฝ่ายท้องถิ่น และประชาชน โดยการสนับสนุนของสำนักงานชลประทาน และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ที่สนับสนุนเครื่องจักรกลมาสูบน้ำ ทำให้สามารถป้องกันบริเวณนี้ได้ครอบคลุมพื้นที่รวม 8,000 ไร่ แต่เนื่องจากมีฝนตกหนักมา 2 ระลอก ทำให้น้ำท่วมขังบริเวณที่ลุ่มต่ำประมาณ 2000 ไร่ วันนี้จึงต้องเร่งสูบน้ำเพื่อดึงน้ำน้ำค้างทุ่ง ให้ไหลลงสู่แม่น้ำชี ซึ่งหากสูบน้ำต่อไปอีกประมาณ 7 วัน คาดว่าน้ำจะลดปริมาณลงและจะสามารถเข้าทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ซึ่งน้ำค้างทุ่งขณะนี้อยู่ในพื้นที่นาข้าวประมาณ 2,000 ไร่ ดังนั้นหากปล่อยไว้จะเกิดความเสียหายมูลค่ารวมกว่า 12.6 ล้านบาท และเมื่อการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปีของชาวพระลับเสร็จสิ้น ก็จะอนุญาตให้ทำนาปรังอย่างต่อเนื่องทันที”
ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า จากการตรวจติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ขณะนี้พบว่า เขื่อนอุบลรัตน์ ได้ลดระดับการระบายน้ำลงเหลือ 24 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน เนื่องจากน้ำที่ไหลเข้าทางตอนเหนือของเขื่อนมีปริมาณน้ำที่น้อยลง โดยคาดการณ์ว่าภายในวันที่ 23 พ.ย.เขื่อนอุบลรัตน์จะมีน้ำกักเก็บอยู่ที่ระดับร้อยละ 100 ของความจุ โดยที่วันนี้ระกับน้ำเก็บกักอยู่ที่ ร้อยละ 112 ของความจุอ่าง จึงมั่นใจว่าปริมาณน้ำเก็บกักที่มีอยู่จะสามารถบริหารจัดการน้ำสำหรับการอุปโภคและบริโภคให้กับประชาชนในช่วงฤดูแล้งปลายปีจนถึงปีหน้าได้อย่างสมดุลและไม่ส่งผลต่อภาวะขาดแคลนน้ำแต่อย่างใด
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797