ขอนแก่นคลายล็อค 3 อำเภอ อนุญาตให้ขายเหล้า-เบียร์ได้ถึงเที่ยงคืน มีผลทันที พร้อมพิจารณาเปิดเรียนให้กับเด็กๆตั้งแต่ระดับชั้น ป.5 ลงแต่ต้องได้รับวัคซีนครบกว่าร้อยละ 70 หลังระดับชั้นต่างๆเปิดเรียนไปแล้วก่อนหน้านี้
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 3 ก.พ.2565 ที่สำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นพ.ภาคี ทรัพย์พิพัฒน์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น ประชุมร่วมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ขอนแก่น เพื่อประเมินและติดตามความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ประชุมวันนี้ได้มีการกำหนดมาตรการผ่อนคลาย ภายหลังจากสถานการณ์ในพื้นที่เริ่มดีขึ้นตามลำดับและการให้บริการวัคซีนในทุกกลุ่มอายุ ตามที่รัฐบาลมและ ศบค.กำหนดนั้นมีการดำเนินงานเชิงรุกลและคืบหน้าอย่างมาก จึงพิจารณาอนุญาตให้พื้นที่นำร่องท่องเที่ยวหรือพื้นที่บลูโซน เดิมรัฐบาลพิจารณาให้ขอนแก่นเป็นพื้นที่บลูโซน 7 อำเภอ แต่ที่ประชุมได้มีการพิจารณาและนำร่อง 3 อำเภอคือ อ.อุบลรัตน์,เวียงเก่า และเปือยน้อย นั้นสามารถจัดกิจกรรมนำร่องท่องเที่ยวภายใต้มาตรฐาน SHA Plus และ Thai Stop Covid ได้แล้วและสามารถจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในกลุ่มร้านอาหารหรือสถานประกอบการได้จนถึงเวลา 24.00 น. โดยมีผลวันนี้ทันที
” การนำร่อง พื้นที่ 3 อำเภอดังกล่าว เป็นการประเมินและพิจารณาแล้วพบว่า มีการฉีดวัคซีนในกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมทุกอายุแล้วเกือบ 100% สถานพยาบาลมีเตียงผู้ป่วยและสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้ทันที มีการตรวจประเมินผ่านทุกมาตรการที่รัฐบาลและ ศบค.กำหนด จึงมีมติให้ผ่อนคลายในพื้นที่ 3 อำเภอดังกล่าวโดยให้มีผลวันนี้ทันที ส่วน 4 อำเภอที่เหลือโดยเฉพาะ อ.เมืองขอนแก่น ยังคงต้องมีการพิจารณาในองค์ประกอบด้านต่างๆอีกครั้ง โดยเฉพาะกับการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินและการเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมตามกลุ่มอายุที่กำหนด”
ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ที่ประชุมยังคงมีการพิจารณาเปิดทำการเรียนการสอนให้กับนักเรียน ในระดับชั้นตั้งแต่ ป.5 ลงมา ซึ่งจัดอยู่ในช่วงอายุ 5-11 ปี ที่รัฐบาลได้เร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 หรือไฟเซอร์ฝาสีส้ม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้พิจารณาเปิดเรียนไปแล้ว ในระดับชั้น ป.6 ขึ้นไปตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นมา ซึ่งในการเปิดเรียนของระดับชั้น ป.5 ลงมานั้นต้องผ่านการตรวจประเมินจาก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ตามระเบียบและขั้นตอนที่ได้กำหนดไว้ และนักเรียนต้องได้รับวัคซีนแล้วมากกว่าร้อยละ 70 จึงพิจารณาเปิดทำการเรียนการสอนได้มีผลวันพรุ่งนี้ ( 4 ก.พ.) อย่างไรก็ตามสำหรับสถานประกอบการที่ต้องการนำเข้าแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ เพื่อมาประจำการในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ขณะนี้สามารถที่จะดำเนินการได้แล้ว และจังหวัดพร้อมที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อให้แผนการขับเคลือนภาพรวมทางเศรษฐกิจนั้นเดินหน้าต่อไปได้
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797 >