พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังมอบอาหารช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่รอบวัดระฆังโฆสิตาราม ว่า วันนี้ไม่ได้มาเรื่องการเมืองให้การเมืองว่ากันไป แต่มาดูในเรื่องโควิด-19 อยากฝากเรื่องการจัดตั้งโรงทานและตู้ปันสุขหรือแบ่งปัน ได้สั่งการให้ดูแลเรื่องตู้แบ่งปันให้มีคนเฝ้าและติดกล้องเพื่อบันทึกว่าใครมีพฤติกรรมอย่างไร ตนไม่อยากทำโทษใคร เพียงแต่เราต้องไม่เห็นแก่ตัวต้องนึกถึงคนอื่น
“สิ่งที่เป็นห่วงคือเรากำลังเดินหน้าไปสู่ชีวิตวิถีใหม่ วันข้างหน้าประชาชนอาจไม่ออกมานอกบ้านเหมือนเดิม เราต้องมีการปรับปรุงการขายของออนไลน์ เดลิเวอรี และมีการปลูกพืชผักสวนครัวตามบ้านเรือน รวมถึงมีการจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
ทั้งนี้ ได้สั่งการกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปหาวิธีการที่จะทำให้โรงเรียนเปิดเหลื่อมเวลาโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังเตือนประชาชนว่า แม้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะลดลง และตัวเลขจะเป็น 0 ก็ประมาทไม่ได้ เพราะเชื้อโรคยังสะสมอยู่บางคนไม่แสดงอาการ ไม่ใช่ติดเชื้อน้อยแล้วจะผ่อนปรนมากขึ้น ตนอยากให้มีการเปิดกิจการแต่ถ้ามีผู้ติดเชื้อแล้วจะทำอย่างไร
นายกรัฐมนตรี ยังระบุถึงการฟื้นฟูการบินไทยว่ากำลังดำเนินการอยู่ ส่วนแนวคิดที่ให้ฟ้องล้มละลายการบินไทยก่อนกลับมาเข้าสู่แผนฟื้นฟูนั้นอยู่ในขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่งการบินไทยยังไม่ตัดสินใจว่าจะใช้วิธีการใด
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับประชาชนว่า ทุกสิ่งที่นายกรัฐมนตรีทำ หวังว่าจะทำให้ประเทศดีขึ้น ประชาชนมีความสุข “อยู่กันมาตั้ง 5-6 ปี ยังไม่รู้ใจนายกรัฐมนตรีอีกหรือ” ตนเองไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น ขอเพียงประชาชนมีความสุข ยืนยันว่า รัฐบาลดูแลทุกคน โดยปัจจุบันมีผู้มีรายได้น้อยอยู่ประมาณ 40 ล้านคน ทุกคนต้องปรับตัวให้ทันยุคสมัย โดยเฉพาะการใช้ข้อมูลข่าวสาร ที่ต้องแก้ไขอาชีพให้ตรงกับปัจจุบัน เพราะเมื่อมีการจ่ายเงินเยียวยาจะได้ถูกต้อง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการจ่ายเงินได้โดยตรงกับประชาชน