สาวโรงงานสุดงง เดินกลับบ้านหลังเลิกงาน ถูกคนร้ายบุกเข้าไปขโมยรถจักรยานยนต์ต่อหน้าต่อตา ทั้งยังทิ้งรองเท้าแตะไว้ให้ดูต่างหน้า วอนตำรวจจับกุมตัวด่วนเพราะคนในชุมชนกลัวมากและส่วนใหญ่เป็นคนสู่งอายุ หวั่นย้อนกลับมาก่อเหตุซ้ำ
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 7 ธ.ค.2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่ บ้านเลขที่ 699 ซอยวุฒาราม 2 ตรงข้ามบ้านพักการรถไฟแห่งประเทศไทย เขตเทศบาลนครขอนแก่น หลังเกิดเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวเข้ามาขโมยรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ในบ้านพัก ก่อนที่จะขับรถออกไปต่อหน้าเจ้าของบ้านอย่างตาตาเฉย โดยทิ้งรองเท้าแตะไว้ให้ดูต่างหน้า ท่ามกลางความหวาดกลัวของคนในชุมชนอย่างมาก เพราะหวั่นคนร้ายจะกลับเข้ามาก่อเหตุซ้ำ
โดยพบกับ น.ส.รำไพ คล้ายสมบูรณ์ อายุ 50 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวยืมรอด้วยท่าทางตกใจ พร้อมทั้งพาผู้สื่อข่าวเดินดูจุดที่คนร้ายก่อเหตุเข้ามาลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ภายในชั้น 1 ของบ้านพร้อมนำภาพที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิดมาให้ผู้สื่อข่าวได้ชม ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 20.30 น.ของเมื่อวานที่ผ่านมา (6 ธ.ค.) โดยกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์การก่อเหตุของคนร้ายไว้ได้ทั้งหมด
น.ส.รำไพ กล่าวว่า ประกอบอาชีพรับจ้างอยู่ที่โรงงานแหอวน ที่ตั้งอยู่ในละแวกบ้านโดยจะเลิกงานประมาณ 20.30 น.ของทุกวัน ซึ่งในวันเกิดเหตุหลังเลิกงานได้เดินกลับมาถึงช่วงปากซอยก็พบสิ่งผิดปกติที่หน้าบ้าน และเมื่อเดินมาถึงบริเวณหน้าบ้านพบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีลาโน่ สีชมพูขาวหมายเลขทะเบียน 1กณ-7754 ขอนแก่น ของตนเองจอดอยู่หน้าบ้าน ลักษณะหันหัวออกและกำลังจะขับออกจากบ้าน จากนั้นไม่นานพบคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 20 ปีสวมใส่กางเกงยีนส์ และเสื้อแจกเก๊ต รองเท้าผ้าใบ พยายามที่จะปิดประตูบ้านและปิดทับด้วยผ้าใบอีกชั้น ในจังหวะนั้นได้ตะโกนเรียก เพราะนึกว่าเป็นหลานชายแต่คนร้ายก็ทำทีเหมือนไม่มีอะไรขึ้นและขับรถจักรยานยนต์ออกไปอย่างรวดเร็วต่อหน้าต่อตา“ ตนเองนั้นตกใจและกลัวมาก เพราะถนนก็มืดอีกทั้งไม่มีใครผ่านไป-มา จึงได้แต่ตะโกนถามแต่คนร้ายไม่ตอบก่อนที่จะขับรถออกไป จังหวะนั้นก็คิดว่าจะเข้าชาร์จคนร้ายแต่ก็กลัวว่าคนร้ายจะมีอาวุธหลังคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ออกไป ก็ตั้งสติและตะโกนให้คนมาช่วย ก่อนที่จะมีเพื่อนบ้านผ่านมามาสอบถามและช่วยกันแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเมื่อเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านพักก็พบร่องรอยการรื้อค้นทั้งชั้น 1 และชั้น 2ของบ้านอย่างกระจัดกระจายแต่คนร้ายไม่ได้อะไรไป ได้เพียงรถจักรยานยนต์ของตนเองเสียบกุญแจคาไว้ในรถเท่านั้น”
น.ส.รำไพ กล่าวต่ออีกว่า ได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่รอบบ้านพบว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนสนิทกับหลานเขย ที่เคยมาที่บ้าน 2 ครั้ง เพราะเมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายรายนี้มาที่บ้านแล้วเมื่อ่วงเวลา 10.00 น.โดยทำทีมาสอบถามหาคนอยู่บ้านก่อนจะมาก่อเหตุดังกล่าว และหลังเกิดเหตุคนร้ายได้เปลี่ยนเสื้อผ้าโดยสวมใส่ชุดของหลานชายขณะนี้หลบหนีและยังคงทิ้งรองเท้าแตะที่สวมใส่มาทิ้งไว้ในบ้านให้ดูต่างหน้าอีกด้วย อย่างไรก็ตามเสียดายที่คนร้ายรายนี้ขโมยรถไปเพราะเป้นรถที่นำเงินจากน้ำพักน้ำแรงที่ทำงานมาผ่อนจนหมดงวด จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่เร่งจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะชาวบ้านล้วนหวั่นกลัวว่าจะหวนกลับมาก่อเหตุซ้ำเนื่องจากในชุมชนส่วนใหญ่มีแต่คนสูงอายุอาศัยอยู่ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่รวมทั้งการนำส่งคลิปภาพเหตุการณ์ที่บันทึกภาพใบหน้าคนร้ายได้อย่างชัดเจนส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป