เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2566 เวลา.09.00น. ณ อาคารเรียนรวมและพัฒนาทักษะพื้นฐาน คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้มีพิธีนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการเพื่อพัฒนาความรู้ด้านการลงทุน การแนะแนววิชาชีพจัดการกองทุน และ การวิจัยระหว่างบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด กับ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมี รศ.ดร.เกรียงไกร กิจเจริญ รองอธิการบดีฝ่ายทรัพย์กรบุคคล มข.เดินทางมาเป็นประธานกล่าวต้อนรับ กล่าวถึงการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการในครั้งนี้ ร่วมด้วย ศาสตราจารย์ ดร.กัลปพฤกษ์ ผิวทองงาม คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มข.กล่าวถึงความร่วมมือ และมีนายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา CFA ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการเพื่อพัฒนาความรู้ด้านการลงทุน การแนะแนววิชาชีพจัดการกองทุน และ การวิจัย มีแขกผู้มีกียรติ สื่อมวลชนเป็นสักขีพยาน
ด้าน รศ.ดร.เกรียงไกร กิจเจริญ รองอธิการบดีฝ่ายทรัพย์กรบุคคล มข.กล่าวว่า “ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสมาเป็นประธาน ในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการเพื่อพัฒนาความรู้ด้านการลงทุน การแนะแนววิชาชีพจัดการกองทุน และ การวิจัย ระหว่าง บริษัทหลักทรัพย์ จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด กับ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีการเรียนการสอนใน Modul Financial Economics ซึ่งเป็นกลุ่มรายวิชาที่นักศึกษาต้องใช้ความรู้ด้านการลงทุน และบริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการจัดการลงทุน กองทุนส่วนบุคคล การจัดการกองทุนรวม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และการจัดการทรัพย์สินของผู้อื่น
ซึ่งส่วนงานทั้งสอง มีความประสงค์ร่วมกันที่จะให้ความร่วมมือและให้การสนับสนุนทางวิชาการ เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจด้านการลงทุน ครอบคลุมมิติของการบริหารจัดการความมั่งคั่ง การให้ข้อมูลด้านวิชาชีพในอุตสาหกรรมการจัดการลงทุน และการให้ความร่วมมือในเชิงการวิจัยเชิงลึกด้านวิชาการ และร่วมดำเนินกิจกรรมร่วมกันดังนี้
1. โครงการเสริมสร้างความรู้และแนะแนวอาชีพด้านการลงทุน ประกอบด้วย
-โครงการให้ความรู้ด้านการลงทุนและแนะแนววิชาชีพด้านการลงทุน
(Wealth Management & Asset Management)
– โครงการสหกิจศึกษา
-โครงการให้ความรู้ด้านการออมและการลงทุนเบื้องต้น
-โครงการความร่วมมือด้านวิชาการระหว่าง บลจ. บัวหลวง และ มหาวิทยาลัย
2. โครงการแข่งขัน Idea Pitch Competition
3. โครงการศึกษาพฤติกรรมการลงทุนของนักลงทุนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” รศ.ดร.เกรียงไกร กิจเจริญ รองอธิการบดีฝ่ายทรัพย์กรบุคคล มข.กล่าว
ด้าน ศาสตราจารย์ ดร.กัลปพฤกษ์ ผิวทองงาม คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มข.กล่าวเพิ่มเติ่มว่า “ เราตั้งเป้าหมายไว้ 2 เรื่อง เรื่องด้านวิชาการกับด้านงานวิจัย ด้านวิชาการนักศึกษาที่จบออกไปแล้วสามารถที่จะข้าทำงานด้านที่ปรึกษาด้านการวางแผนด้านเงินได้เลย การ MOU ในครั้งนี้น่าจะก่อเกิดเป็นประโยชน์กับบุคคลากรในการวางแผนการลงทุน ให้เป็นผู้รู้ทางด้านการเงิน ส่วนในด้านงานวิจัยคงจะทำวิจัยเรื่องหนี้สินของครัวเรือนช่วยหาสาเหตุต้นเหตุของปัญหาให้ได้ ในส่วนการเรียนการสอนคงมีการปรับบ้างเพื่อให้ทันสมัยสามารถให้ผู้เรียนเข้าถึงเข้าใจจบแล้วสามารถออกไปทำงามตามสายงานที่ตนเองเรียนจบได้เลย”ศาสตราจารย์ ดร.กัลปพฤกษ์ ผิวทองงาม คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มข.
สุดท้าย นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา CFA ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัดกล่าวเพิ่มว่า “สำหรับในพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ เพื่อพัฒนาความรู้ด้านการลงทุน การแนะแนววิชาชีพจัดการกองทุน และ การวิจัย ระหว่าง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด กับ มหาวิทยาลัยขอนแก่นในการบริหารความรู้ด้านการเงินการลงทุนของบุคลากรของมหาวิทยาลัยขอนแก่นและการเพิ่มองค์ความรู้ทางด้านการเงินของนักศึกษาของคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ปัจจุบัน สาขาการลงทุนและการบริหารจัดการลงทุนได้ก้าวขึ้นมามีความสำคัญมากในสาขาด้านการเงินและการลงทุน ทั้งจากฝั่งอุปทาน (Supply) ที่ตัวเลือกทางการลงทุนเปิดกว้างในหลายรูปแบบPlatform การลงทุนได้รับการพัฒนาให้เข้าถึงได้ง่าย ทางเลือกของสินทรัพย์ให้ลงทุนก็มีหลากหลายรูปแบบ และจากฝั่งอุปสงค์ (Demand)ที่ผู้คนให้ความสนใจในแนวคิด“ให้เงินช่วยทำงาน” เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน กระทั่งหลายๆคนมีแผนที่จะมีอิสรภาพทางการเงินก่อนวัยเกษียณ จึงเกิดความกะตือรือร้นที่จะ “หาทางเลือกทางการลงทุน” ที่ใช่เพื่อตอบโจทย์ชีวิตของตัวเอง ด้วยแรงผลักดันทั้งสองทางทำให้อุตสาหกรรมนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดดโดยสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการ (Asset Under Managementซึ่งรวมกองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคลและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ) อยู่ที่ 8.5ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 50% ของ GDP ไทย (17 ล้านล้านบาท) เทียบกับช่วงเริ่มต้นเมื่อปี 2535ซึ่งAUM อยู่ที่ 2% ของ GDP เท่านั้น ตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียง AUM ที่รวบรวมจากสมาคมบลจ. แต่เนื่องด้วยตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า ปัจจุบันมีทางเลือกในการลงทุนเกิดขึ้นอย่างมากมาย เม็ดเงินการลงทุนจริงน่าจะมีมากกว่าแต่ท่ามกลางโอกาสที่มากมายนั้นมีความเสี่ยง เนื่องด้วยทางเลือกการลงทุนบางประเภทผิดกฎหมาย ไม่โปร่งใส และบิดเบือนข้อมูลที่ให้กับนักลงทุน บลจ.บัวหลวงตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน ทั้งในเชิงของการ1) ให้ข้อมูลกับผู้ที่สนใจเข้ามาประกอบอาชีพในอุตสาหกรรม,2)ให้ความรู้ด้านการลงทุนเพื่อสร้างทัศนคติต่อการลงทุน(Investment Mindset) ที่ดี, และ 3)ต่อยอดผลงานวิจัยขั้นสูงความร่วมมือทางวิชาการระหว่างบลจ. บัวหลวงและมหาวิทยาลัยขอนแก่นจึงเกิดขึ้นเพื่อบรรลุสามวัตถุประสงค์หลักตามที่ได้กล่าวไป
การลงนาม MOU ระหว่างบลจ.บัวหลวงและมหาวิทยาลัยขอนแก่นครั้งนี้ เป็น MOU ฉบับแรกที่บลจ.บัวหลวงได้ร่วมลงนามกับสถาบันการศึกษา เนื่องด้วย บลจ.บัวหลวงได้เล็งเห็นถึงการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดดของภูมิภาคอีสานโดยที่มีขอนแก่นเป็นศูนย์กลาง การวางรากฐานทางการลงทุนในภาคอีสานจะเป็นการช่วยเพิ่มศักยภาพการเติบโตของภูมิภาคผนวกกับมหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นสถาบันที่เปี่ยมไปด้วยทรัพยากรบุคคลคุณภาพ องค์ความรู้ที่ทันสมัย และเครือข่ายที่จะสามารถเชื่อมโยงกับชุมชน บลจ.บัวหลวงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือทางวิชาการครั้งนี้จะนำมาซึ่งผลสัมฤทธิ์ตามเป้าประสงค์ที่ได้กำหนดไว้ร่วมกัน รวมถึงบรรลุพันธกิจหลักของบลจ. บัวหลวงที่จะ “ทำให้ครอบครัวไทย มีความมั่นคงทางการเงิน ท้ายสุดสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่สนใจเข้ามาลงทุนด้านการเงินในรูปแบบต่างๆควรทำการศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญเยอะพอสมควรเพื่อความเข้าใจในการตัดสินใจลงทุน ต้องระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ การมีองค์ความรู้จึงต้องจำเป็น” นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา CFA ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัดกล่าวปิดท้าย
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณาติดต่อ นิตยา สุวรรณสิทธิ์ -0628929797 >